เมื่อเวลา 09.30 น. (10 เม.ย.67) เกิดพายุฤดูร้อน ลมกระโชกแรงพัดถล่ม อำเภอแม่สอดและอำเภอพบพระ จังหวัดตาก  ทำให้กระเบื้องหลังคาบ้านเรือนประชาชนและร้านค้าปลิวว่อน เกิดฟ้าผ่าอย่างแรงติดต่อกันหลายครั้ง ทำให้กิ่งไม้ขนาดใหญ่หักใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย ขณะเกิดพายุฤดูร้อนบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา นานกว่า 50 นาที ส่งผลให้บริเวณพบพระ 5 หมู่บ้าน ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง และที่อำเภอแม่สอด มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายเช่นกัน จำนวน 4 หมู่บ้าน และมีลูกเห็บตกลงมา ส่วนในพื้นที่ของตำบลมหาวัน และอีกหลายจุด ตามแนวชายแดนแม่สอด ได้รับความเสียหายเสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่นจำนวน 7 ต้นทำให้กระแสไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอแม่สอดต้องระดมเจ้าหน้าที่เข้าแก้ไขระบบอย่างเร่งด่วน เพื่อจ่ายกระแสไฟฟ้าในพื้นที่โดยเร็ว และแรงพายุยังทำให้หลังคาร้านค้าถูกกิ่งไม้หักใส่ตัวร้านและกีดขวางทางจราจรบนถนนทางเข้าหมู่บ้าน เกิดฟ้าผ่า ต้นไม้ขนาดใหญ่ถอนรากถอนโคนล้มทั้งยืนและมีกิ่งไม้หักจำนวนมาก ขนาดเกิดพายุประชาชนต้องวิ่งหาที่หลบเพื่อเอาตัวรอด ภายหลังเหตุการณ์สงบลง เจ้าหน้าที่จากองค์การบริหารส่วนตำบลมหาวัน ได้นำเครื่องจักรกลเบาและเลื่อยยนต์เร่งเข้าไปช่วยกันตัดซากต้นไม้ที่ล้มใส่ร้านค้า จากการสำรวจพบบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจำนวน 40 หลังคาเรือน ประชาชนไม่มีใครได้รับอันตราย 

       ขณะที่นายสนม ทับปะละ อายุ 61 ปีชาวบ้านม่อนหินเหล็กไฟ ได้เล่านาทีระทึกให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ขนาดเกิดเหตุมีลมกระโชกแรงและมีฝนตกฟ้าคะนอง ตนเองเห็นต้นไม้ล้มแบบถอนรากถอนโค่นต่อหน้าต่อตา ต้องรีบวิ่งเข้าไปหลบอยู่ภายในบ้าน กระแสลมพายุที่พัดแรงทำให้กระเบื้องหลังคาบ้านเปิดปลิวว่อนไปทั่วบริเวณ ส่วนบ้านของตนกำแพงรั้วบ้านถูกต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มใส่ได้รับความเสียหาย ทางด้านเจ้าหน้าที่จากองค์การบริหารส่วนตำบลมหาวันได้ส่งทีมงานออกสำรวจพื้นที่ความเสียหาย จากลมพายุฤดูร้อนที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ และจะได้ดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อไป 

เกษมสันต์ ไชยเดช ผู้สื่อข่าวจังหวัดตาก