ตามที่นายกรัฐมนตรีนายเศรษฐา ทวีสิน ได้กำชับให้เร่งกวดขันปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อป้องกันเด็กและเยาวชน โดยมอบหมายให้นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดกับผู้ลักลอบขาย  บุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า

 ล่าสุด  นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  ได้แถลงข่าวลงพื้นที่กวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้า ภายหลังจากที่นายกเศรษฐา สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกวาดล้าง “บุหรี่ไฟฟ้า” หลังแพร่หลายในเยาวชน จับผู้ลักลอบนำเข้า-จำหน่าย อย่างจริงจังเด็ดขาดและบังคับใช้กฎหมายเคร่งครัด  เมื่อคืนที่ผ่านมาได้สั่งการ นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค นำทีมศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ สคบ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมี ผู้กำกับ สน. วังทองหลาง (พ.ต.อ. เจษฏา  ยางนอก)  และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน. พหลโยธิน  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ สคบ. ร่วมลงพื้นที่กวาดล้างร้านค้าที่ลักลอบเปิดร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าให้กับเด็กและเยาวชนหลังมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม ในพื้นที่เขตวังทองหลาง และเขตรัชดาภิเษก 

ในการปฏิบัติการครั้งนี้ตรวจสอบพบร้านจำหน่าย จำนวน 5 ร้าน 1) RELX CAFE @เสือใหญ่ ซอยเสือใหญ่

(รัชดา 36) 2) VAPE THAILAND  ซอยเสือใหญ่ (รัชดา 36) 3) A.B VAFE ซอยเสือใหญ่ (รัชดา 36) 

4) สเปซพอต รามคำแหง 65 และ5) ร้านริมถนน ศรีวรา เขตวังทองหลาง สามารถยึดของกลาง

ได้จำนวนประมาณ 12,000 ชิ้น มูลค่าของกลาง 3.6 ล้านบาท จึงได้ตรวจยึดบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าทั้งหมด  พร้อมนำส่งพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน และ สน.วังทองหลางเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ฝ่าฝืน

ในทุกข้อหาอย่างเด็ดขาด

นางพวงเพ็ชรฯ กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าที่มีการกวดขันบังคับใช้กฎหมายในทุกพื้นที่  ทำให้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการขายไปตามช่องทางต่าง ๆ แต่มีบางร้านที่ยังมีการเปิดขายและไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย รวมถึงปล่อยให้มีเด็กและเยาวชนเข้าไปซื้อมาใช้  ส่งผลเป็นอันตราย ต่อสุขภาพและพัฒนาการทางสมองและระบบทางเดินหายใจ ซึ่ง สคบ. มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่องตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และการปฏิบัติการครั้งนี้ สคบ. ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนในพื้นที่ว่ามีการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพฯ หลายร้านมีลูกค้าจำนวนมากรวมทั้งเด็กและเยาวชน บางร้านได้ถูก สคบ. ลงตรวจจับมาแล้วแต่กลับมาลักลอบเปิดขายอีก จึงอยากให้ สคบ. ดำเนินการอย่างเด็ดขาด  จึงนำมาซึ่งการปฏิบัติการทลายแหล่งขายบุหรี่ไฟฟ้าในวันนี้ 

ทั้งนี้ การลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า เป็นความผิดตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองที่ 9/2558 เรื่อง “ห้ามขายหรือห้ามให้บริการบารากู่ บารากู่ไฟฟ้า บุหรี่ไฟฟ้าหรือน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า” ซึ่งหากว่าใครฝ่าฝืนเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ใดพบเห็นการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ หรือแจ้ง สคบ. ได้ที่สายด่วน 1166 เว็บไซต์ www.ocpb.go.th แอปพลิเคชัน OCPB Connect รวมทั้งศูนย์ดำรงธรรม ในทุกจังหวัด