ทอท.เร่งแผนพัฒนา “สนามบินดอนเมือง” กว่า 3.6 หมื่นล้านบาท คาดเปิดประกวดราคางานก่อสร้างปลายปีนี้ ตอกย้ำตำแหน่งสนามบินสำหรับสายการบินต้นทุนต่ำที่ดีที่สุดในโลก
เว็บไซต์ Skytrax ซึ่งเป็นเว็บไซต์จัดอันดับการให้บริการของสนามบิน ล่าสุดได้ประกาศการจัดอันดับในปี 2024 โดยพบว่า 2 สนามบินหลักของประเทศไทย ติดอันดับสนามบินที่ดีที่สุดในโลก ประกอบด้วย สนามบินสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ติดอันดับที่ 58 ขยับขึ้นอันดับที่ 68 โดยขึ้นมา 10 อันดับจากปี 2023 ขณะที่สนามบินดอนเมือง (ทดม.) ติดอันดับ 10 ของสนามบินสำหรับสายการบินต้นทุนต่ำที่ดีที่สุดในโลก (World’s Best Low-Cost Airline Terminals)
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ผลการจัดอันดับดังกล่าวมาจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้เดินทางด้วยเครื่องบินทั่วโลก ภายใต้การสำรวจที่ชื่อว่า World’s Airport Survey จัดทำโดยบริษัท Skytrax ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยและที่ปรึกษาด้านการบินชั้นนำของประเทศอังกฤษที่มีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์คุณภาพการให้บริการของสายการบินและสนามบินทั่วโลก โดยคำนึงถึงหมวดการให้บริการสนามบิน เช่น การเดินทาง สภาพแวดล้อมและการออกแบบ เจ้าหน้าที่สนามบิน สิ่งอำนวยความสะดวก และการให้บริการ เป็นต้น
อย่างไรก็ดี ทอท.มีแผนพัฒนาขีดความสามารถ นอกจากการลงทุนขยายอาคารผู้โดยสาร ยังนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มความสะดวกในการให้บริการสนามบิน ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (Common Use Self Service: CUSS) เครื่องโหลดกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (Common Use Bag Drop: CUBD) ระบบประตูทางออกขึ้นเครื่องอัตโนมัติ (Self-Boarding Gate: SBG) และระบบตรวจสอบยืนยันตัวตนผู้โดยสาร (Passenger Validation System: PVS) ทำให้ผู้โดยสารไม่ต้องรอคิวนาน ตามคอนเซ็ป “Fast and Hassle Free Airport”
โดยเฉพาะแผนพัฒนาสนามบินดอนเมือง ซึ่งขณะนี้ครองตำแหน่ง 1 ใน 10 สนามบินสำหรับสายการบินต้นทุนต่ำที่ดีที่สุดในโลก ปัจจุบัน ทอท.อยู่ระหว่างผลักดันโครงการพัฒนาสนามบินดอนเมือง ระยะที่ 3 วงเงินลงทุน 36,829.499 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนออกแบบโครงการ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ พร้อมเปิดประกวดราคาจัดหาผู้รับเหมาในปี 2567 หลังจากนั้นจะเริ่มงานก่อสร้างในปี 2568 และทยอยเปิดให้บริการในปี 2572
สำหรับแผนลงทุนสนามบินดอนเมือง มีรายละเอียดดังนี้
กลุ่มงานที่ 1 ประกอบด้วย งานพัฒนาด้านทิศใต้ เช่น งานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารอาคาร 3 พร้อมอาคารเทียบเครื่องบินหมายเลข 6 และงานปรับปรุงอาคารจอดรถยนต์ 7 ชั้น เป็นชานชาลาจอด รับ - ส่งผู้โดยสาร
กลุ่มงานที่ 2 ประกอบด้วย งานพัฒนาพื้นที่ด้านทิศเหนือ เช่น งานปรับปรุงหลุมจอดอากาศยานด้านทิศเหนือ และงาน ก่อสร้างขยายอาคารเทียบเครื่องบินด้านทิศเหนือ รวมไปถึงอาคาร สำนักงานสายการบิน และอาคารรับรองพิเศษ VVIP
กลุ่มงานที่ 3 ประกอบด้วย งานก่อสร้างในพื้นที่เขตปฏิบัติการการบิน เช่น งานก่อสร้างลานจอดอากาศยานด้านทิศเหนือพร้อมทางขับเชื่อม
กลุ่มงานที่ 4 ประกอบด้วย งานปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร อาคาร 1 อาคารเทียบเครื่องบินด้านทิศเหนือ เช่น งานปรับปรุง อาคารผู้โดยสาร อาคาร 1 อาคารเทียบเครื่องบิน หมายเลข 2 – 4
กลุ่มงานที่ 5 ประกอบด้วย งานสนับสนุนโครงการพัฒนา ได้แก่ งานก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค กลุ่มงานที่ 6 ประกอบด้วย งานสิ่งแวดล้อม ได้แก่ งานจ้างติดตาม ตรวจสอบและเฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อมในระยะ การปรับปรุงและฟื้นฟูสิ่งอำนวยความสะดวกโครงการ
ทั้งนี้ เมื่อพัฒนาโครงการฯ แล้วเสร็จจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารของสนามบินดอนเมืองได้มากขึ้น จากปัจจุบันมีขีดความสามารถรองรับ 30 ล้านคนต่อปี จะเพิ่มเป็น 40 ล้านคนต่อปี และสามารถบริหารจัดการให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 50 ล้านคนต่อปี