เมื่อ 22 มกราคม 2561 เวลา 15.00 น. พันเอก ปราโมทย์  พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการ รักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า เมื่อ 22 มกราคม 2561 ตั้งแต่เวลา 1000 เป็นต้นไป เจ้าหน้าที่ได้นำผู้ต้องหา 2 คน ไปจัดทำแผนประกอบคำรับสารภาพในเขตพื้นที่จังหวัดปัตตานี โดยมีรายละเอียดดังนี้

       1. ผลมาจากการบังคับใช้กฎหมายด้วยการจัดกำลังเข้าติดตามจับกุมคนร้ายในเขตพื้นที่  บ้านปะการือสง ตำบลตุยง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เมื่อ 10 มกราคม 2561 สามารถควบคุมตัวบุคคลเป้าหมาย 2 คน คือ นายซาอุดี  ยามา มีหมาย ป.วิอาญา 7 หมาย และนายสการียา หมื่นรายา มีหมาย ป.วิอาญา 6 หมาย จากการซักถามเบื้องต้นทั้งคู่ได้ให้การรับสารภาพว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีสำคัญในพื้นที่ จำนวน 6 เหตุการณ์ ดังนี้

       1.1 เหตุการณ์ที่ 1 เหตุยิงรถยนต์บรรทุกสินค้า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย บนถนนสาย 43 หมู่ 4 ตำบลบางเขา อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เมื่อ 26 กันยายน 2558 ออกหมาย ป.วิอาญา จำนวน 8 คน จับกุมแล้ว จำนวน 6 คน

       1.2 เหตุการณ์ที่ 2 เหตุลอบวางระเบิดชุดลาดตระเวน สถานีตำรวจภูธรหนองจิก มีผู้ได้รับ บาดเจ็บ จำนวน 4 นาย บนถนนสาย 43 หมู่ 5 ตำบลบางเขา อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เมื่อ 9 เมษายน 2559 ออกหมาย ป.วิอาญา จำนวน 6 คน จับกุมแล้ว จำนวน 3 คน

       1.3 เหตุการณ์ที่ 3 เหตุลอบวางระเบิดรถบัสทหารรับส่งนักเรียน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน ถนนสาย 42 หมู่ 1 ตำบลบางเขา อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เมื่อ 9 มิถุนายน 2559 ออกหมาย ป.วิอาญา จำนวน 6 คน จับกุมแล้ว จำนวน 4 คน

       1.4 เหตุการณ์ที่ 4 เหตุกราดยิงบ้านเรือนราษฎร มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 คน บนถนนสาย 43 หมู่ 8 ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เมื่อ 15 กรกฎาคม 2560 ออกหมาย ป.วิอาญา จำนวน 7 คน จับกุมแล้ว จำนวน 4 คน
          1.5 เหตุการณ์ที่ 5 เหตุยิง นายมะเย็ง  สะมะแอ เสียชีวิต พื้นที่บ้านตันหยงเปา หมู่ 4 ตำบลท่ากำชำ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เมื่อ 28 กรกฎาคม 2560 ออกหมาย ป.วิอาญา จำนวน 3 คน จับกุมแล้ว จำนวน 2 คน

       1.6 เหตุการณ์ที่ 6 เหตุยิง นายมะสาอูดี ยูโซะ เสียชีวิต พื้นที่ หมู่ 6 ตำบลบางเขา อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เมื่อ 15 กันยายน 2560 ออกหมาย ป.วิอาญา จำนวน 3 คน จับกุมแล้ว จำนวน 2 คน

       2. ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมวัตถุพยานและบูรณาการงานด้านการข่าว จนสามารถกำหนดบุคคลเป้าหมายร่วมก่อเหตุ รวม 16 คน ออกหมาย ป.วิอาญา รวม 33 หมาย ซึ่งได้ร่วมกันก่อเหตุ   ที่สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมาก มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 14 ราย และพิการ 1 ราย สามารถควบคุมตัวได้แล้ว 9 คน อยู่ระหว่างดำเนินคดี 7 คน (อัยการสั่งไม่ฟ้อง 1 คน) สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ในวันนี้ภายหลังจัดทำแผนประกอบคำรับสารภาพแล้ว ก็จะส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นเดียวกัน ในส่วนที่เหลือจะเร่งรัดติดตามจับกุมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ เมื่อคดีถึงที่สุดแล้ว ผู้เสียหายทุกคนมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งจากผู้ร่วมก่อเหตุได้โดยไม่มีข้อยกเว้น เช่นเดียวกัน

       3. กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังคงยึดมั่นในการบังคับใช้กฎหมายด้วยความเสมอภาค เป็นธรรมและโปร่งใสในทุกขั้นตอน อย่างไรก็ตามก็ยังคงมีแนวร่วมที่แอบแฝงอยู่ในองค์กรภาคประชาสังคมบางองค์กร ได้พยายามขัดขวางการบังคับใช้กฎหมายด้วยวิธีการร้องเรียนและใช้สื่อออนไลน์บิดเบือนกล่าวหาเจ้าหน้าที่ซ้อมทรมานเพื่อทำลายความเชื่อมั่นมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นการร้องเรียนหรือเสนอข่าวสารอันเป็นเท็จ ก็มีสิทธิที่จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นเดียวกัน สำหรับความคืบหน้าคดีสำคัญอื่นๆ จะชี้แจงให้สังคมรับทราบตามลำดับต่อไป