ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าของการปรับปรุงสนามราชมังคลากีฬาสถานครั้งใหญ่ เป็นโครงการที่จะให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุน แปลงโฉมเป็นสนามกีฬาระดับนานาชาติที่มี “ความทันสมัย” ยิ่งขึ้น! ด้วยขนาดสนามที่มีความจุราว 50,000 ที่นั่ง แม้จะไม่สามารถเพิ่มความจุได้อีก แต่เพิ่มมิติความทันสมัย ให้เป็น “สมาร์ต สเตเดียม” (Smart Stadium) ที่มีระบบรักษาความปลอดภัย สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบายคนเข้าออกได้รวดเร็ว พร้อมปรับปรุงห้องต่างๆ ภายในสนามให้มีประโยชน์มากขึ้น

หลังจาก กกท.ได้นำร่องปรับปรุงห้องน้ำและสิ่งอำนวยความสะดวกไปแล้วบางส่วนเพื่อรองรับการใช้งานในปัจจุบัน งบปรับปรุงดังกล่าวมาจากรายรับการจัดแสดงคอนเสิร์ตที่สนามราชมังคลาฯ ซึ่งทาง กกท.จัดเก็บในอัตรา “ไม่กี่ล้านบาท” เท่านั้น ถือว่าไม่สูงมากนัก ให้ครอบคลุมค่าน้ำค่าไฟ ส่วนหนึ่งก็เพื่อส่งเสริมให้ผู้จัดคอนเสิร์ตเลือกมาจัดที่นี่ ช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจตามมา“จะมีการเสนอโครงการปรับปรุงสนามราชมังคลากีฬาสถานต่อที่ประชุมคณะกรรมการ กกท.ในเร็วๆ นี้ โดยกระบวนการเปิดประมูลหาเอกชนร่วมลงทุน หรือ Bidding น่าจะเริ่มได้ในปลายปีงบประมาณ 2567 และคาดว่ากระบวนการ Bidding น่าจะแล้วเสร็จในปีงบประมาณ 2568” ด้าน “วงเงินลงทุน” ประเมินเบื้องต้นคือหลักพันล้านบาท อาจจะถึง 5,000 ล้านบาท ขึ้นกับว่าเอกชนจะเสนอมาเท่าไร ส่วน “เงื่อนไข” การเสนอให้เอกชนร่วมลงทุนจะเป็นอย่างไรนั้น ทาง กกท.จะจัดทำร่างขอบเขตงาน (TOR) ว่ามีอะไรบ้าง ต้องปรับปรุงอะไรเพิ่มเติมบ้าง เช่น ระบบรักษาความปลอดภัย และการเพิ่มความสะดวกต่างๆ แก่สนามแห่งนี้

 “เป็นไปได้ว่าการปรับปรุงสนามราชมังคลาฯ โฉมใหม่จะยกระดับให้สามารถเปิดปิดหลังคาได้เหมือนสนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ อยู่ที่ว่าจะออกแบบอย่างไร เพราะตอนนี้มีหลายเทคโนโลยีรองรับ ทั้งเปิดปิดหลังคาก็มี และทำให้สนามหญ้าไม่ต้องพักหญ้านาน 2 สัปดาห์ก็มี แต่หลักๆ จะยังเป็นสนามแบบโอเพ่นแอร์ (Open Air)”

ส่วนเรื่องโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ของสนามฯ เช่น ห้องน้ำ ทาง กกท.ได้ยื่นของบจากกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (กองทุนดีอี) ไว้แล้ว 200 ล้านบาท โดยได้นำเรียนต่อ เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้ช่วยผลักดัน ก่อนเข้าสู่กระบวนการ Bidding โครงการปรับปรุงสนามราชมังคลาฯ ในปลายปีงบประมาณนี้

ก้องศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อีกโครงการใหญ่ของ กกท. คือการพัฒนาก่อสร้าง “สปอร์ต คอมเพล็กซ์” (Sport Complex) ขนาดใหญ่แห่งใหม่ใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี บนที่ดินรวม 1,500-2,000 ไร่ เป็นส่วนหนึ่งของ “เมืองใหม่อีอีซี” โครงการนี้จะประกอบด้วยสนามกีฬาแห่งชาติ (National Stadium) แห่งใหม่ และสปอร์ตคอมเพล็กซ์ที่มีหลายชนิดกีฬา สามารถจัดคอนเสิร์ตและใช้งานได้หลายวัตถุประสงค์ คาดมูลค่าการลงทุน “หลักหมื่นล้านบาท” โดยจะขอสนับสนุนงบจากรัฐบาลส่วนหนึ่ง และเปิดให้เอกชนเข้ามาลงทุนอีกส่วนหนึ่ง ภายใต้โมเดลโครงการร่วมลงทุนรัฐ-เอกชน หรือ PPP

 “ปัจจุบัน กกท.มีศูนย์ฝึกกีฬาภาคตะวันออกบนที่ดินกว่า 200-300 ไร่อยู่แล้ว ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 1,200-1,700 ไร่นั้น เราจะขอเช่าต่อจากอีอีซี (EEC) หรือสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเพิ่ม เพื่อให้มีที่ดินรวมทั้งหมดประมาณ 1,500-2,000 ไร่ตามแผน ซึ่งทางอีอีซีสามารถเวนคืนที่ดินสำหรับการนำมาพัฒนาโครงการนี้ได้”เหตุผลที่ กกท. มองพื้นที่ตรงนี้ในการพัฒนาให้เป็นสปอร์ตคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ เพราะสามารถเดินทางได้สะดวก ทั้งทางรถยนต์ รถไฟ เครื่องบิน อยู่ใกล้สนามบินอู่ตะเภา และสามารถขยายเชื่อมโยงกับกิจกรรมอื่นๆ ได้ เพื่อให้เกิดความคึกคักทางเศรษฐกิจ

“โครงการนี้ต้องนำเสนอให้คณะกรรมการ กกท.พิจารณาก่อน และเนื่องจากเป็นโครงการใหญ่ในอีอีซี จึงต้องเสนอให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาด้วย” ผู้ว่าการ กกท. กล่าว