ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เกษตรนำไทย ย้อนกลับ
“กฤษฎา”เล็งยกเครื่องโครงสร้างเกษตร ลดขนาดเกษตรแปลงใหญ่เหลือ 50 ไร่
01 ก.พ. 2561

นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้ส่งหนังสือเวียนไปยังปลัดกระทรวงเกษตรฯ และผู้บริหาร เพื่อแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เรื่อง การเสริมต่อโครงการตามนโยบายเกษตรแปลงใหญ่ด้วยหลักคิดการตลาดนำการผลิตทางการเกษตร พร้อมกับสั่งการให้กำหนดแนวทางการบริหาร หรือนำนโยบายดังกล่าวข้างต้นไปดำเนินการ (Implement) ในพื้นที่ให้ต่อเนื่อง และเกิดประโยชน์ต่อเกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรม และให้นำหลักคิดในเรื่องการตลาดนำการผลิตทางการเกษตรไปดำเนินการด้วย

ทั้งนี้ ขอให้สำรวจและรวบรวมข้อมูลเกษตรแปลงใหญ่ที่มีพื้นที่รวมกันตั้งแต่จำนวน 50 ไร่ขึ้นไปจากเดิมที่เคยกำหนดไว้ต้องมีพื้นที่รวมกัน 300-1,000 ไร่ ซึ่งเป็นแปลงที่ได้ดำเนินการไปแล้ว และยังไม่มีแผนการผลิต แผนการตลาดอย่างครบวงจร และผลผลิตของสมาชิกยังมีปัญหาไม่มีตลาดรองรับนั้น มีจำนวนกี่แปลง ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และจังหวัดไหนและเกษตรกรสมาชิกปลูกพืช หรือประกอบการเกษตรกรรมประเภทอะไรเป็นส่วนใหญ่ มีการรวมตัวกันจดทะเบียนกลุ่มหรือวิสาหกิจชุมชน หรือสมาชิกสหกรณ์การเกษตรแล้วหรือไม่อย่างไร

นอกจากนี้ ให้วิเคราะห์แผนการผลิต แผนการตลาดของเกษตรแปลงใหญ่ว่า มีปัญหาหรือจุดอ่อนในเรื่องอะไรที่เกินขีดความสามารถของหน่วยงานในพื้นที่ที่จะแก้ไขได้ และต้องการขอรับการสนับสนุนจากส่วนกลางในเรื่องอะไรบ้าง และให้อธิบดีต้นสังกัดทุกหน่วยงานขับเคลื่อน

อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชุมระหว่างคณะอนุกรรมการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ของจังหวัด (อ.พ.ก.) กับหน่วยงานรัฐและเอกชนด้านการตลาด เพื่อพิจารณารับซื้อผลผลิตจากกลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ หรือร่วมวางแผนการตลาดให้แก่กลุ่มเกษตรกร หรืออาจให้มีการตกลงจับคู่ค้าขายกันตามพันธสัญญาที่เป็นธรรมระหว่างกลุ่มเกษตรกรสมาชิกเกษตรแปลงใหญ่ หรือวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์การเกษตรกับภาคเอกชนผู้ค้าปลีก ค้าส่งหรือส่งออกประเทศ บริษัท ห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าตัวแทนจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค หรือร้านค้าสะดวกซื้อซึ่งมีสาขาอยู่ในจังหวัดต่างๆ แล้ว

นายกฤษฎา กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ที่มีการปลูกยางพาราเป็นจำนวนมาก และมีปัญหาผลผลิตราคาตกต่ำนั้น ขอให้คณะอนุกรรมการฯ จังหวัด (อ.พ.ก.) ได้มอบให้คณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนงานนโยบายสำคัญและการแก้ไขปัญหาภาคเกษตรระดับจังหวัด (Chief of Operation) เป็นหน่วยดำเนินการต่อไป ดังนี้

1.ขอให้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนเกษตรกรชาวสวนยางที่มีความประสงค์เข้าร่วมโครงการพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมใหม่ เพื่อทดแทนการปลูกยาง ซึ่งมีหลักการรองรับการพัฒนาอาชีพปลูกยางพาราที่จะมีให้เลือกคือ การเปลี่ยนอาชีพจากการทำสวนยางมาทำเกษตรกรรมใหม่ที่มีตลาดรองรับ หรือมีโอกาสที่เกษตรกรจะมีรายได้มากกว่าการทำสวนยาง

2.เกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการต้องรวมตัวกันเป็นกลุ่มและมีสวนยางหรือแปลงยางติดกัน หรือใกล้เคียงกันในตำบลหรือหมู่บ้านเดียวกัน โดยมีขนาดเนื้อที่รวมกันตั้งแต่ 50 ไร่ขึ้นไป คล้ายหลักการในโครงการเกษตรแปลงใหญ่

3.ส่วนผู้เข้าร่วมโครงการพัฒนาเกษตรกรรมใหม่ เพื่อปรับเปลี่ยนอาชีพทำสวนยางมาทำเกษตรกรรมใหม่ ตามคำแนะนำของทางราชการนั้น ทางราชการจะรับผิดชอบดูแลสนับสนุนปัจจัยการผลิตและการตลาดรวมทั้งหาอาชีพเสริมในช่วงรอผลผลิตทางการเกษตรกรรมใหม่ที่จะขายได้ด้วย จากนั้นให้รวบรวมรายชื่อเกษตรกรและจำนวนพื้นที่แปลงสวนยางที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมใหม่ว่า แต่ละจังหวัดมีจำนวนพื้นที่แปลงใหญ่กี่แปลง แต่ละแปลงมีขนาดพื้นที่กี่ไร่ และกลุ่มเกษตรกรเจ้าสวนยางเหล่านั้นมีการจดทะเบียนกลุ่ม/วิสาหกิจหรือเป็นสมาชิกสหกรณ์หรือไม่

ด้านระดับนโยบายทางคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ประสานงานกับหน่วยงานรัฐและเอกชนในส่วนกลางเพื่อกำหนดแนวทางการช่วยเหลือแก้ไขปัญหาการตลาดของผลผลิตเกษตรกรรมตามโครงการเกษตรแปลงใหญ่และโครงการพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมใหม่ทดแทนการทำสวนยางและจะแจ้งผลให้จังหวัดทราบต่อไป

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 4 มกราคม ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานของกระทรวงเกษตรฯ ระดับจังหวัดขึ้นมา 2 ชุด ประกอบด้วย 1.คณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนงานนโยบายสำคัญและการแก้ไขปัญหาภาคเกษตรระดับจังหวัด และคณะทำงานปฏิบัติการขับเคลื่อนงานนโยบายสำคัญและแก้ไขปัญหาภาคเกษตรระดับอำเภอ

โดยคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนงานนโยบายสำคัญและการแก้ไขปัญหาภาคเกษตรระดับจังหวัด หรือ Chief of Operation มีเกษตรจังหวัดเป็นประธาน มีหน้าที่สำคัญในการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติงานของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ และร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการสร้างการรับรู้และบูรณาการการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของกระทรวงเกษตรฯ ให้เป็นเอกภาพ และพัฒนาด้านการเกษตรและสหกรณ์ที่เป็นรูปธรรม รวมทั้งการติดตาม เฝ้าระวังสถานการณ์ที่จะเป็นปัญหาหรือส่งผลกระทบต่อภาคเกษตร และพิจารณาดำเนินการป้องกัน ควบคุมและแก้ไข รวมถึงการบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรต่างๆ ของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ที่อยู่ในเขตจังหวัด เพื่อให้การแก้ไขปัญหาภาคเกษตรในพื้นที่ในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือวิกฤตเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทันต่อสถานการณ์ มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลสูงสุด

ส่วนคณะทำงานชุดที่ 2 คือ คณะทำงานปฏิบัติการขับเคลื่อนงานนโยบายสำคัญและแก้ไขปัญหาภาคเกษตรระดับอำเภอ หรือ Operation Team ขึ้นมาสนับสนุนการทำงานอีกชุดหนึ่ง โดยมีเกษตรอำเภอเป็นประธาน และเจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่นที่จะบูรณาการการทำงานร่วมกัน รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือ สนับสนุนจากหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ทั้งในระดับกรมและที่อยู่ในเขตจังหวัดทั้งราชการบริหารส่วนภูมิภาคและราชการบริหารส่วนกลางเพื่อการแก้ปัญหาปากท้องระยะยาว

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...