ผู้รับเหมาร้องรัฐมนตรีกระทรวงทรัพย์ฯ หลังบุกกรมทรัพยากรน้ำแต่อธิบดีไม่ให้พบ ปมกรมทรัพยากรมน้ำ เบี้ยวค่าขุดโครงการขุดลอกบึงขามเปี้ย กว่า 17 ล้านบาท หลังดำเนินการตามระเบียบสัญญาจ้างอย่างถูกต้อง กลับเบิกเงินค่างวดงานไม่ได้อ้างรอแก้ไขแบบ เนื่องจากโครงการรุกที่ดินประชาชน หลังแก้ไขแบบกลับถูกหักค่าขุดขน กว่า 15 ล้านบาท และค่าขุดขนบริเวณรุกที่ดินชาวบ้านกว่า 3 ล้านบาท ทั้งที่ผู้รับเหมาทำถูกต้องตามสัญญาจ้างทุกประการ

จากกรณี หจก.แห่งหนึ่ง (ผู้เสียหาย) จ.นครพนมได้เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน จ.กาฬสินธุ์ เมื่อปี 2559 ได้ทำสัญญาจ้างกับกรมทรัพยากรน้ำ ดำเนินการขุดลอกบึงขามเปี้ย อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ โครงการ "อนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำบึงขามเปี้ย" มูลค่าโครงการ 53 ล้าบบาท 

หลังทำสัญญาผู้รับเหมานำเครื่องจักรเข้าดำเนินการในพื้นที่ๆได้รับส่งมอบงานจากผู้ว่าจ้าง (กรมทรัพยากรน้ำ) ได้ตามปริมาณที่ดำเนินงาน จึงต้องการเบิกงวดงานตามความก้าวงวดงานแรก เป็นระยะทาง 7 กม.คิดเป็นเงินตามมูลค่าตามสัญญาในใบปริมาณงาน(BQ) เป็นจำนวนงาน 17 ล้านบาท รวมค่าขุด ค่าขน ค่าขน และบดอัด แต่ไม่สามารถเบิกเงินงวดงานแรกได้เลย

โดยกรมทรัพยากรน้ำ แจ้งว่าระยะทาง บดอัด ภายในไซต์งานที่ได้รับมอบให้ดำเนินการ ได้ถมดินบดอัดรุกล้ำที่ดินของประชาชน เป็นระยะทาง 1 กม. ทางกรมจึงมีหนังสือแจ้งปรับลดปริมาณงานของผู้เสียหายไป เป็นจำนวนเงิน 3,338,161 บาท ซึ่งเป็นผลักภาระมาให้กับผู้หายเป็นคนรับผิดชอบทั้งที่ผู้รับเหมาทำตามคำสั่งของนายจ้างซึ่งเป็นคนส่งมอบงานให้ 

นอกจากนี้ กรมทรัพยากรน้ำ ยังได้มีหนังสือแจ้งให้ผู้รับเหมาเซ็นรับทราบเพื่อยืนยันราคาตามคณะกรรมการตรวจการจ้างกำหนด จากวงเงิน 53 ล้านบาท เหลือ 36 ล้านบาท ถูกปรับลดไปหายไป 17 ล้านบาท

กรณีนี้ ผู้รับเหมาได้ทำหนังสืออุทธรณ์ไปถึงกรมทรัพยากรน้ำ แต่ไปได้รับการพิจารณา กลับมีหนังสือบีบให้เซ็นรับราคาที่ปรับลดเป็น 36 ล้านบาทเป็นฉบับที่ 2 พร้อมระบุข้อความหากไม่เซ็นยืนยันราคาตามที่คณะกรรมการตรวจรับงานระบุภายในเวลา 15 วัน มิเช่นนั้นผู้เสียหายจะถูกบอกเลิกสัญญา ทำให้ผู้รับเหมาไม่มีทางเลือกจึงต้องเซ็นยืนยันโดยไม่ยอมพร้อมใจแต่ประการใด

ต่อมากรมทรัพยากรน้ำ ได้แจ้งหนังสือให้ผู้เสียหายรับทราบ โดยระบุว่า ผู้เสียหายยินดีรับค่างาน จำนวนเงิน 36 ล้าน โดยไม่กระทบต่อปริมาณงานด้วยความโปร่งใสธรรมภิบาล ทั้งที่ความจริงแล้วถูกบีบให้เซ็นรับ

ล่าสุด (21 มิ.ย.67) นายภูกิจ วิจิตร์ หุ้นส่วน หจก.ดังกล่าว ได้เดินทางเข้าพบ นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมในกรณีดังกล่าวข้างต้น แต่ได้ถูกปฏิเสธให้เข้าโดยอ้างว่าติดภาระกิจที่กระทรวงฯ 

จึงเดินทางเข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อขอความเป็นธรรม โดยมี นางหทัยรัตน์ ไอยรากาญจนกุล นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มารับเรื่องเพื่อนำเรียนให้รัฐมนตรีรับทราบต่อไป

ขณะที่ นายอานนท์ วรวรรษนันท์ หัวหน้าพนักงานไต่สวน สำนักไต่สวนการทุจริตภาครัฐ 2 สำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยถึงความคืบหน้า กรณีผู้รับเหมาแจ้งดำเนินคดีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กับอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ พร้อมพวก หลังคณะกรรมการ ป.ป.ช.กลาง มีมติให้สำนักไต่สวนเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำร้องของผู้ร้องเพื่อนำประกอบพิจารณาว่าคำร้องว่าเห็นควรรับการไต่สวนหรือไม่

ขณะที่นายภูกิจ วิจิตร์ หุ้นส่วน หจก.ดังกล่าว ออกมาเปิดเผยว่าตนเดินทางมาจาก จ.นครพนม โดยการขับรถยนต์ส่วนตัวมาเป็นระยะทางกว่า 800 กม. เพื่อมาขอความเป็นธรรมกับอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ แต่เมื่อมาถึงกลับไม่ให้เข้าพบ และไม่รับฟังปัญหาความทุกข์ร้อน ของตนแต่อย่างใด ซึ่งตนรู้สึกผิดหวังมาก จึงตัดสินใจเดินทางเข้าพบ พล.ต.อ.วัชรวาท วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดเพื่อขอความเป็นธรรมต่อไป...