กรณีเรียกรับเงินจากผู้เสียหายในการจัดสรรที่ดิน เพื่อแลกกับการรับโฉนดที่ดินที่มีการแบ่งแยกโฉนด เป็นเงินจำนวน 100,000 บาท ซึ่งคิดเป็นแปลงละ 20,000 บาท โดยมีพฤติกรรมเช่นนี้มาเป็นระยะเวลายาวนานหลายปี สืบเนื่องมาจากผู้เสียหายเจ้าของโครงการบ้านจัดสรร ได้เข้าแจ้งเบาะแสกับสำนักงาน ป.ป.ท. ผ่านสายด่วน 1206 และสำนักงาน ป.ป.ท. ได้ดำเนินการสืบสวนหาข่าวเพิ่มเติม จนนำไปสู่การบูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้ ทั้งนี้ บก.ปปป. ได้ควบคุมตัวเจ้าพนักงานที่ดินดังกล่าว ไปดำเนินคดีตามหน้าที่และอำนาจต่อไป

มีรายงานว่าภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหากับเจ้าพนักงานที่ดินคนดังกล่าวถึงกับเป็นลมเจ้าที่ตำรวจหญิงต้องช่วย พยาบาลเบื้องต้นโบกพัดให้ตลอดเวลาและนำตัวเข้าสอบสวนยัง บก.ปปป.พร้อมด้วยของกลางดังกล่าว

ที่ดินดังกล่าวได้มีเจ้าของหมู่บ้านจัดสรรเข้ามาขอแบ่งแยกโฉนดที่ดินเพื่อทำโครงการหมู่บ้านจำนวน 5 แปลง แปลงละ20,000 บาท รวมเป็นเงิน 100,000 บาท เพื่อติดสินบนเจ้าพนักงานที่ดินเพื่อไม่ให้เกิดการล่าช้า และได้โฉนดการที่แบ่งแยกที่ดินออกมาเร็วโดยที่ไม่ต้องรอคิวนาน จึงนำสู่การจับกุมในครั้งนี้ และพบของกลางเงินสดใส่ถุงกระดาษอยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงานของเจ้าพนักงานที่ดินคนดังกล่าว ส่วน น.ส.เบญจา อายุ 60 ปี เจ้าพนักงานที่ดินระยอง สาขาบ้านค่าย จะมีอายุเกษียณราชการ อีก 26 วันนี้ หรือสิ้นเดือนกันยายน 2567 แต่มาถูกจนท.จับกุมเสียก่อนก่อนอายุเกษียณราชการ ส่วนผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ความผิดดังกล่าว เกิดจากการกระทำส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานต้นสังกัด