ท้องถิ่น เฮ! "ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน" เร่งแก้ไขปัญหาการขอใช้พื้นที่ป่าไม้ ให้แล้วเสร็จเป็นของขวัญปีใหม่ 68 ให้ประชาชน เน้นย้ำแก้กฎหมายต้อง “ยืดหยุ่น สะดวก และคล่องตัว” เพื่อประโยชน์ประชาชน 

 ดร.ชูพงศ์ คำจวง นายกอบจ.สกลนคร นายก อบจ.สกลนคร  นายกสมาคม อบจ.แห่งประเทศไทย เปิดเผบว่าพร้อมด้วย นายวิสูตร จงชูวณิชย์ นายก ทต.บรบือ จ.มหาสารคาม นายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย  รศ.ดร.วิระศักดิ์ ฮาดดา นายก อบต.แห่งประเทศไทย ในนาม 3 สมาคม อปท. และคณะ เข้าพบ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2567 ที่ห้องประชุม ชั้น 17 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อหารือปัญหาของ อปท. ในเรื่อง การขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ ตาม พรบ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 พื้นที่อุทยาน ตามพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และพื้นที่ป่าสงวนตาม พรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้กับ อปท.และหน่วยงานอื่นของรัฐ  ซึ่งเป็นปัญหามาช้านาน ซึ่งพบว่ามีเรื่องค้างกว่า 2 แสนเรื่อง และ รมว.ทรัยากรฯรับปากว่าจะเร่งดำเนินการให้ พี่น้อง อปท.และหน่วยราชการอื่นก็จะได้รับอานิสงค์ด้วย
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.ทส. กล่าวว่า ได้ให้ความสำคัญในเรื่องการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ โดยได้มอบหมายให้กรมป่าไม้ เร่งรัดดำเนินการใน 3 ประเด็น ได้แก่
1.ดำเนินการลดขั้นตอนในการพิจารณาการดำเนินการขออนุญาตใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าไม้ โดยให้มีการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้มีความยืดหยุ่น สะดวก และคล่องตัวมากขึ้น
2.เร่งรัดการพิจารณาคำขออนุญาตกรณีส่วนราชการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ก่อนได้รับอนุญาต จำนวนกว่า 137,000 คำขอ ให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน โดยจัดให้มีการประชุมคณะกรรมการพิจารณาการใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จากเดิมเดือนละ 1 ครั้ง เป็น เดือนละ 2 ครั้ง
3. สำหรับกรณีส่วนราชการที่ไม่สามารถยื่นคำขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ ได้ตามห้วงเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2567 (7 กันยายน 2564 ซึ่งเป็นวันสุดท้าย) จึงขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำรวจและรวบรวมข้อมูลคำขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ ที่ตกค้า งส่งให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมป่าไม้ ดำเนินการ ขอขยายระยะเวลาต่อ ครม. ต่อไป ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานเกี่ยวกับการขออนุญาตใช้ประะโยชน์พื้นที่ป่าไม้ ทั้งที่ส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ ได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง ตามกฎหมาย และให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด ตลอดจนช่วยในการดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้ของประเทศต่อไป