นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า การจัดงาน Mini EEC Fair 2024 ไม่เพียงแต่แสดงศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางอุตสาหกรรม “S-CURVE” แต่ยังเป็นเวทีสำคัญที่ใช้กลไกธุรกิจ “ไมซ์” (MICE : การจัดประชุม เดินทางเพื่อเป็นรางวัล สัมมนา และแสดงสินค้า) ในการเชื่อมโยงนักลงทุนและผู้ประกอบการ

โดยเฉพาะใน “5 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย” ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ประกอบด้วย 1.การแพทย์และสุขภาพ (Medical & Health) 2.ดิจิทัลและอิเล็กทรอนิกส์ (Digital) 3.ยานยนต์สมัยใหม่ (Next Generation Automotive) 4.เศรษฐกิจ BCG ครอบคลุมเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งเป็นโมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนายั่งยืน และ 5.อุตสาหกรรมบริการ (Service)

“ทีเส็บเชื่อมั่นว่าการเจรจาและการสร้างพันธมิตรเชิงธุรกิจในงานนี้จะเปิดโอกาสใหม่ๆ ในการลงทุนในพื้นที่ EEC ซึ่งจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจของประเทศไทย และต่อยอดการเติบโตของอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก ซึ่งจะช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยให้เพิ่มมากขึ้น ความสำเร็จของปีที่ผ่านมาจากการจัดงาน EEC Cluster Fair 2023 ซึ่งเป็นการจัดนิทรรศการแสดงศักยภาพและงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรม S-Curve ในพื้นที่ EEC แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการดึงดูดการลงทุนจากบริษัทชั้นนำระดับโลก”

นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี กล่าวว่า “อีอีซี” เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ สำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงและอุตสาหกรรมแห่งอนาคต การจัด Mini EEC Fair 2024 นับเป็นเวทีสำคัญที่แสดงถึงความพร้อมของพื้นที่ EEC ในการรองรับการลงทุน ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน นโยบายสนับสนุน และการให้สิทธิประโยชน์รูปแบบใหม่ที่จูงใจ ผ่านวิธีการเจรจาตามข้อเสนอการลงทุนของนักลงทุนเฉพาะราย

โดยมีกรอบสิทธิประโยชน์ที่สำคัญ อาทิ ด้านภาษี ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุด เป็นเวลา 1 - 15 ปี ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลไม่เกินร้อยละ 50 เป็นเวลา 1-10 ปี สิทธิในการได้รับยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีอากร เป็นต้น ด้านที่ไม่ใช่ภาษี อาทิ ด้านวีซ่าและใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าว มอบ EEC Visa ให้แก่กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ ผู้บริหาร ผู้ชำนาญการ และบุคคลในอุปการะ ระยะเวลาสูงสุด 10 ปี รวมไปถึง การให้บริการภาครัฐครบวงจร หรือ EEC One Stop Service (EEC OSS) ซึ่งนักลงทุนสามารถรับบริการด้านอนุมัติ อนุญาต การยื่นคำขอที่เกี่ยวข้องผ่านระบบออนไลน์ รวมทั้งสามารถขอรับสิทธิประโยชน์ผ่านช่องทาง EEC OSS ได้ เป็นการลดขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

“การจัดงานครั้งนี้จะช่วยให้นักลงทุนต่างชาติได้พบปะเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการของไทย ทำให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นที่จะลงทุนในพื้นที่อีอีซียิ่งขึ้น ทั้งยังเป็นการสร้างระบบนิเวศการลงทุนของไทยให้เข้มแข็ง และเพิ่มการลงทุนในไทยให้มากขึ้นกว่าเดิม”

สำหรับปัจจัยที่มีผลต่อการเข้ามาลงทุนในไทยของนักลงทุนต่างชาติ สำคัญที่สุดคือเรื่องราคาที่ดิน แรงงานเพียงพอ ระบบโครงสร้างพื้นฐาน โทรคมนาคม และการอำนวยความสะดวกในขั้นตอนออกใบอนุญาตหรือกำกับดูแลต่างๆ ส่วนต้นทุนด้านต่างๆ ยังไม่ได้มีผลต่อการตัดสินใจมากนัก

“ความกังวลด้านภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ดีเท่าที่ควรนั้น มองว่าในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี การใช้เงินที่ดีที่สุดคือใช้เพื่อการลงทุนให้กลายเป็นสินทรัพย์ในระยะยาว เปรียบเทียบกับการลงทุนในด้านอื่นๆ อาทิ ตลาดหุ้น การลงทุนในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี นอกจากจะทำให้ไม่มีกำไรแล้ว หากหุ้นตก เงินที่ลงทุนไว้ก็จะหายไปตามด้วย”

นายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ เอ็กซิมแบงก์ (EXIM BANK) กล่าวว่า “เอ็กซิมแบงก์” ในฐานะ Green Development Bank ทำงานอย่างใกล้ชิดกับทุกหน่วยงานพันธมิตร เพื่อส่งเสริมศักยภาพของพื้นที่อีอีซี โดยในงาน Mini EEC fair 2024 นี้ เอ็กซิมแบงก์ได้เตรียมสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการที่ลงทะเบียนที่บูธของเอ็กซิมแบงก์ ประกอบด้วย 1.รับประกันการส่งออก มูลค่าคุ้มครองสูงสุดถึง 300,000 บาท โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อสนับสนุนให้ผู้ส่งออกขยายไปยังตลาดใหม่ได้อย่างมั่นใจ และ 2.ลดอัตราดอกเบี้ยสูงสุด 0.5% ต่อปี ในปีแรก สำหรับสินเชื่อเพื่อการลงทุนหรือขยายกำลังการผลิต การปรับปรุงสถานประกอบการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือธุรกิจที่มีเป้าหมายชัดเจนในการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (ESG)

นอกจากมาตรการและการสนับสนุนด้านการเงินและลงทุนแล้ว การพัฒนา “อุตสาหกรรมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี” (Wellness) ก็เป็นอีกหนึ่งเสาหลักสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่อีอีซี จึงมีการจัดกิจกรรมเสวนาเพื่อเจาะลึกถึงวิสัยทัศน์และโอกาสการลงทุนในอุตสาหกรรมนี้ ในหัวข้อ “Shaping the Future of Wellness Investment in EEC” ซึ่งจะนำเสนอแนวคิดการพัฒนาอีอีซีให้เป็น “ศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ” ระดับโลก โดยวิทยากรชั้นนำทั้งจากภาคธุรกิจและภาครัฐ พร้อมทั้งแสดงนวัตกรรมด้านการแพทย์และสาธารณสุขจากสถาบันการศึกษาชั้นนำในภาคตะวันออก