เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จไปในมหกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโลก (World Travel Market 2024) ที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร โดยมี นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, ดร. ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พร้อมด้วยผู้บริหารและพนักงาน เฝ้ารับเสด็จ

โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย ในฐานะหน่วยงานพันธมิตรกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ได้บูรณาการทำงานร่วมกันและนำเสนอสินค้าหรือบริการในส่วนของการกีฬาเพื่อการท่องเที่ยวภายในงานมหกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโลก (World Travel Market 2024) กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 5-7 พฤศจิกายน

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภายในบูทของกกท.ปีนี้ ได้มุ่งเน้นด้านการประชาสัมพันธ์กิจกรรมระดับเวิลด์คลาสสปอร์ตอีเวนต์ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันในประเทศ รวมถึงการนำนโยบายกีฬามาเป็นซอฟต์เพาเวอร์ของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม กกท.ได้พัฒนาระบบจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบของเว็บแอพลิเคชั่น เพื่อเป็นเครื่องมือหลักในการประชาสัมพันธ์ และเชื่อมโยงการเจรจาการค้ากับผู้ประกอบการจัดการแข่งขันกีฬาของประเทศไทย โดยจะมีข้อมูลทั้งสถานที่, การซื้อบัตรเข้าชม, การเดินทาง, ที่พัก อย่างครบถ้วน เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกได้เต็มที่

ผู้ว่าการกกท. กล่าวต่อว่า ในหลายปีที่ผ่านมา กกท.เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนจนได้จัดอีเวนต์ระดับโลกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงปลายปี 2024 จนถึงสิ้นปี 2025 ยังมีกีฬาระดับโลกอีกหลายรายการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก (โมโตจีพี) ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2025 ที่ประเทศไทยจะได้รับเกียรติให้เป็นสนามเปิดฤดูกาล 2025 รวมถึงจะมีนักแข่งไทยลงแข่งขันในระดับโมโตจีพีคนแรกในประวัติศาสตร์นั่นก็คือ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา อีกด้วย เชื่อว่าดึงความสนใจจากผู้ชมชาวต่างชาติได้เป็นจำนวนมากหลังจากปีที่ผ่านมาดึงดูดนักท่องเที่ยวที่เข้ามาชมได้ถึง 50,000 คน นอกจากนี้ยังมี การแข่งขันเจ็ตสกีเวิลด์คัพ, การแข่งขันกอล์ฟอาชีพสตรี ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์, การแข่งขันวิ่งเทรลระดับโลก By UTMB, การแข่งขันวิ่งมาราธอนมาตรฐาน World Athletics ซึ่งเทียบเท่ามาราธอนในเมืองใหญ่ๆ ของโลก, การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 และยังส่งท้ายด้วยกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งครั้งนี้รัฐบาลตั้งใจให้เป็นเวทีที่เผยแพร่ซอฟต์พาวเวอร์ทุกด้าน ไม่ใช่แค่การแข่งขันกีฬาอย่างเดียว

ดร.ก้องศักด กล่าวเสริมว่า อีกหนึ่งไฮไลท์ที่กกท.นำเสนอในปีนี้คือการนำระบบ Virtual Reality (วีอาร์) เพื่อนำเสนอประสบการณ์ด้านมวยไทย โดยมีภาพจริง, บรรยากาศจริง ของการแข่งขันมวยไทยบนเวทีที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย มาแสดงให้ผู้ชมในงานได้รับชมกัน เนื่องจากว่าคนจำนวนมากยังไม่เคยสัมผัส เราจึงนำระบบจำลองเสมือนจริงทำให้ผู้ที่เข้าร่วมงานได้เหมือนเข้าไปอยู่ในสถานที่จริงๆ ได้เห็นว่าสถานที่จริงเป็นอย่างไร เพื่อกระตุ้นความสนใจให้ไปชมของจริงที่ประเทศไทยซึ่งดีกว่าที่ได้เห็นแน่นอน และยังมีการนำเสนอ Muaythai Platform สำหรับการเรียนมวยไทยในประเทศไทย ซึ่งจะมีค่ายมวยที่ผ่านมาตรฐานจากการกีฬาแห่งประเทศไทย และนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่สนใจในการเรียนมวยสามารถใช้สิทธิในการสมัครวีซ่าแบบ Non-ED Visa 90 วัน และ DTV Visa 180 วัน ที่จะเข้ามาเรียนรู้อย่างถูกต้องจนถึงขั้นได้ลองขึ้นชกบนเวทีมวยของจริงอีกด้วย

ดร.ก้องศักด กล่าวปิดท้ายว่า การเข้าร่วมงานมหกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโลกครั้งนี้ กกท. คาดว่าจะทำให้กิจกรรมเวิลด์คลาสสปอร์ตอีเวนต์ และมวยไทย มีชาวต่างชาติเข้ามาชมหรือร่วมทำกิจกรรมในประเทศไทยมากขึ้น โดยเฉพาะการเข้ามาแบบกลุ่ม และจะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยในการนำกีฬา มาเป็นกลไกสำคัญในการสร้างซอฟต์พาวเวอร์ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยวเชิงกีฬาอย่างแท้จริง โดยเฉพาะในปี 2025 ที่รัฐบาลจะส่งเสริมให้เป็นปี Thailand Grand Tourism and Sports ตลอดทั้งปี

ทั้งนี้ มหกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโลก (World Travel Market 2024) เป็นงานส่งเสริมการขายและการท่องเที่ยวที่มีผู้เข้าร่วม มากกว่า 43,000 ราย มีผู้เข้าร่วมนำเสนอสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวมากกว่า 180 ประเทศทั่วโลก และมีผู้ซื้อที่มีศักยภาพมากกว่า 4,000 ราย รวมไปถึงเป็นงานส่งเสริมการขายและการท่องเที่ยวที่มีการนัดหมายและเจรจาทางการค้าเกิดขึ้นมากกว่า 29,000 ครั้ง