นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในโอกาสเดินทางมอบนโยบายการช่วยเหลือเกษตรกร โดยหารือร่วมกับนายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงเกษตรฯ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ณ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่า การเดินทางมายังกระทรวงเกษตรฯครั้งนี้ เพื่อติดตาม และรับฟังความคืบหน้าการดำเนินงานของกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในกระทรวงเศรษฐกิจในกำกับดูแล หลังจากรัฐมนตรีประจำกระทรวงทั้งสามท่านรับตำแหน่งเป็นระยะเวลาเกือบ 3 เดือนเศษแล้ว รวมถึงรับฟังประเด็นปัญหาต่าง ๆ ในการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาภาคเกษตร ยกระดับรายได้ของเกษตรกร เพื่อเป็นการปฏิรูปภาคการเกษตรในระยะยาวได้อย่างจริงจัง
ทั้งนี้ ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการให้เป็นไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลวางไว้ และกำชับให้ช่วยกันป้องกันการทุจริต โดยเฉพาะการเร่งรัดงบประมาณในการโครงการต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรโดยเร็ว นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำเป็นพิเศษในเรื่องการเชื่อมโยงสถาบันการเงิน โดยเฉพาะ ธ.ก.ส.ในการสนับสนุนสินเชื่อให้กับเกษตรกร การสร้างความเข็มแข็งระบบสหกรณ์ การลดปริมาณผลผลิตยางพาราให้สอดคล้องกับความต้องการตลาด การลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกร โดยเฉพาะเรื่องปุ๋ยที่เป็นต้นทุนการผลิตที่สำคัญ ให้กระทรวงเกษตรฯ พิจารณาเสนอแผนงานโครงการเรื่องปุ๋ยสั่งตัด และการหารือภาคเอกชนผู้ผลิตปุ๋ยเพื่อปรับลดราคาลง
ด้านนายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การตรวจเยี่ยมกระทรวงเกษตรฯ ของรองนายกฯ ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 เพื่อติดตามผลการดำเนินงานกระทรวงเกษตรฯ รอบ 3 เดือนที่ผ่านมา โดยกระทรวงเกษตรฯ ได้รายงานสถานการณ์ผลิตสินค้าเกษตรสำคัญๆ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ไม่มีปัญหาสามารถดูแลแก้ไขได้ ยกเว้นยางพาราที่ยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร แต่อย่างไรก็ตาม รองนายกฯ ได้เน้นย้ำว่าถ้ามีผู้ว่าการยางฯ คนใหม่แล้วให้เร่งรีบดำเนินการตามแผนที่กำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นการลดปริมาณยางโดยหยุดกรีดยางในระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งรองนายกฯ ก็เห็นด้วยกับแนวทางนี้ แต่ต้องมีการหารือในการรายละเอียดและแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรในช่วงหยุดกรีดให้ชัดเจน รวมถึงการพัฒนาหน่วยธุรกิจยางของการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ให้เห็นชัดเจนเป็นรูปเป็นร่างสามารถซื้อขายยางในเชิงธุรกิจได้จริง
อีกประเด็นที่รองนายกฯ เน้นย้ำ คือ การช่วยเหลือเกษตรกรโดยตรงทั้งในส่วนโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ที่กระทรวงเกษตรฯ มีกิจกรรมในการอบรมเกษตรกรเพื่อพัฒนาอาชีพแล้ว ก็ให้หารือร่วมกับ ธ.ก.ส.ในการสนับสนุนสินเชื่อให้เกษตรกรที่ผ่านาการอบรมแล้ว และมีบุคคลค้ำประกันสามารถกู้เงินได้ โดยคิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 3 เพื่อให้เกษตรกรมีเงินทุนในการประกอบอาชีพให้เกิดความยั่งยืน อีกส่วนหนึ่ง คือ การลดปัจจัยการผลิต โดยเฉพาะปุ๋ย ซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญของเกษตรกร รองนายกฯ ได้สั่งการสองแนวทาง คือ การส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาใช้ปุ๋ยสั่งตัดมากขึ้น โดยผ่านระบบสหกรณ์ ซึ่งคาดว่าจะมีกรอบแนวทางที่ชัดเจนหลังเทศกาลสงกรานต์ รวมถึงในสัปดาห์หน้าจะเชิญผู้ค้าปุ๋ยรายใหญ่หารือขอความร่วมมือลดราคาปุ๋ยด้วย