เรื่องราวเหลือเชื่อไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้นแล้วในพื้นที่โรงพักบ้านบึงชลบุรี เมื่อผู้เสียหายมาร้องทุกข์ว่า เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567เวลากลางคืนตนเองมีปัญหากับบุตรสาวที่มีครอบครัวแล้วที่บ้านของตนเองจากนั้นมีตำรวจสายตรวจมาที่บ้าน โดยบุตรสาวเกรงว่าตนเองอาจคิดสั้น ดังนั้น ตำรวจจึงขอเอาอาวุธปืนที่มีทะเบียนถูกต้องตามกฏหมาย(ใบป.4)ยี่ห้อCZขนาด9มม. ราคาเกือบแสนบาทไปเก็บรักษาไว้ก่อนที่โรงพักบ้านบึงชลบุรี!!!

ครั้นต่อมาผู้เสียหายไปติดต่อขอรับปืนคืน จากร้อยเวรฯปรากฏว่าถูกผลัดผ่อนจากวันเป็นสัปดาห์จากสัปดาห์เป็นเดือนแต่ก็ยังไม่คืนปืนแก่ผู้เสียหาย! ที่น่าตกใจคือ ร้อยเวรฯสอบสวนโรงพักบ้านบึงชลบุรีคดีนี้ ทำการสอบปากคำผู้เสียหายและแจ้งว่าจะทำหนังสือถึงนายทะเบียนอาวุธปืน เพื่อให้เพิกถอนใบป.4 ของ

ผู้เสียหายรายนี้ ทั้งที่มิได้กระทำความผิดทางอาญา หรือ ผิด ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิ งและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490  ตาม มาตรา 7 และ มาตรา 8 ทวิ แต่อย่างใด

ต้องบอกว่าคดีนีัพนักงานสอบสวนและผู้บังคับบัญชา ช่างกล้ามาก,ช่างไม่เกรงกลัวความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตาม ประมวลกฏหมายอาญา มาตรา157หรือ ทางวินัยใดๆเลย! เป็นการร่วมกันปฏิบัติฯเอาอาวุธปืนของผู้เสียหายไปโดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายผู้เสียหายหรือไม่

หากนับตั้งแต่วันที่4 ตุลาคม 2567ถึงปัจจุบันเกือบครบ3 เดือนแล้ว ก็ยังไม่คืนอาวุธปืนขนาด9มม ยี่ห้อCZ แก่ผู้เสียหายและปืนกระบอกนีัก็ไม่ได้เป็นของกลางแต่อย่างใดเพียงสงสัยว่า "ที่ไม่คืนแก่ผู้เสียหายนั้น มันมีใครอมปืน หรือ เอาปืนของผู้เสียหายไปเป็นของตนโดยทุจริต หรือไม่ เพราะปืนรุ่นนี้เป็นที่นิยมและมีราคา " น่าสงสัยจริงๆ

ด้วยเหตุนี้ จึงขอกระซิบเบาๆไปยังผู้บัญชา การตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ,ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พลตำรวจโท ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ได้โปรดตั้งกรรมการสอบสวนวินัย กราวรูด ตามลำดับชั้นใครเกี่ยวข้องบ้าง ของโรงพักบ้านบึงชลบุรี หรือมีคำสั่ง โยกย้ายตำรวจ ที่เกี่ยวข้องมายังส่วนกลาง ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้การสอบสวนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีต่อไป