ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
เพราะผลประโยชน์ เจ้าอาวาสชาวเมียนมา ถือวิสาสะติดป้ายขับไล่พระไชยันต์ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ผิดอะไร!
18 ม.ค. 2568
ฉาวอีกเพราะผลประโยชน์แท้ๆ เจ้าอาวาสชาวเมียนมา ถือวิสาสะ เรื่องเช่นนี้ถือว่าเป็นการเนรคุณ ถึงขั้นติดป้ายขับไล่พระไชยันต์ ให้พ้นจากวัดทั้งๆ ที่ไม่ได้ผิดอะไร! 
 
เจ้าหน้าที่ประธานมูลนิธิพิทักษ์ไทย ทราบข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหา วัดดังเมืองกาญจน์ ติดป้ายขับไล่พระในวัด ถือว่าผิด ทำไม่ได้ เพราะไม่ใช่ศาล อย่างนี้เข้าข่ายการเนรคุณ ทั้งๆที่พระไชยันต์ผู้ถูกขับไล่เป็นผู้ลงชื่อรับรองให้เป็นเจ้าอาวาสแท้ๆ และมูลนิธิพิทักษ์ไทย ยังทราบอีกว่าเจ้าอาวาสยังปล่อยเงินกู้ให้กับพระไชยันต์ อีกด้วย ถือว่าผิดร้ายแรง 
 
วันนี้ 18 ม.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวได้เดินทาง ไปพบกับ ร้อยโท สำราญ  วงษ์น้อย ซึ่งเป็นตัวแทนประชาชนชาวบ้านวัดหนองสามพราน ไปยื่นหนังสือให้กับทางเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับพระอาจารย์ไชยยันต์ สุเมโธ (รารามนัส) ซึ่งเป็นพระลูกวัดของวัดหนองสามพราน ได้ถูกเจ้าอาวาสวัดหนองสามพราน ซึ่งเป็นบุคคลคนต่างด้าว สัญชาติเมียนมา ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส จากพระไชยันต์ กับผู้ใหญ่บ้าน และคณะกรรมการของวัด เนื่องจาก พระอธิการทุนเอฯ เป็นต่างด้าว ไม่ถูกต้องตามระแบบข้อกฎหมาย ไม่สามารถจะดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสได้ แต่พระไชยันต์ พร้อมผู้ร่วมลงชื่อนั้นเห็นว่า บวชมานาน แต่เมื่อได้เป็นเจ้าอาวาสมา ไม่ได้ทำอะไรให้วัดได้เกิดความเจริญ ไม่สร้างหรือบูรณใดๆ ทางพระไชยันต์ จึงได้เห็นว่าหากเป็นเช่นนี้พระอุโบสถที่คั่งค้างอยู่ในสมัยอดีตเจ้าอาวาสเดิมที่มรณภาพไปสร้างไว้ จึงได้คิดปรับปรุงเชิญชวนญาติโยมจนสามารถดำเนินการจนสำเร็จสมบูรณ์อย่างที่เห็น
 
สำหรับความเป็นมา พระอธิการทุนเอ ฯ ได้รักษาการเจ้าอาวาสมานานนับ 15 ปี นับตั้งแต่ปี 49 ต่อจากเจ้าอาวาสองค์เดิม ได้มรณะภาพไปจนถึงปี 66 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสอย่างเป็นทางการ ในระหว่างที่รักษาการเจ้าอาวาสตั้งแต่ปี 49 จนเป็นเจ้าอาวาสในปี 67 พระอธิการทุนเอ ฯ ได้แต่งตั้งขึ้นมาให้เป็นเจ้าอาวาส  และบริหารจัดการ การเงินของวัดด้วยตนเอง โดยไม่ผ่านที่ประชุมของชาวบ้านตลอดระยะเวลา15 ปี ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน การบริหารจัดการการเงินของวัดไม่มีการเปิดเผย บัญชีรายรับรายจ่ายของวัดให้กับคณะกรรมการของวัดได้ทราบมาตลอดระยะเวลา19 ปี ทำให้พวกเราประชาชนชาวบ้านวัดหนองสามพราน เกิดการครางแคลงใจ ในการบริหารกิจการการเงิน ของวัด โดยพระอธิการทุนเอ ฯ และไวยาวจกรของวัด พวกชาวบ้านประชาชนวัดหนองสาวพราน ได้ยื่นหนังสือไปถึงเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการแต่งตั้งเจ้าอาวาสวัดหนองสามพราน โดยการแต่งตั้ง เป็นไปตามระเบียบข้อกฎหมายของประเทศไทย หรือไม่ อย่างไร
 
พระอาจารย์ไชยันต์ ท่านตั้งปนิธานอย่างแน่วแน่ว่าจะต้องสร้างพระอุโบสถให้แล้วเสร็จให้ได้ ท่านก็ได้เริ่มบอกบุญกับสารุชนญาติโยมที่มีจิตศรัทธาภายในจังหวัด และต่างจังหวัดให้เข้ามาร่วมกันบริจาคเงินเพื่อร่วมสมทบทนเพื่อก่อสร้างพระอุโบสถที่ก่อสร้างค้างคาไว้ ด้วยการเชิญชวนให้ผู้มีจิตรศรัทธาตั้งองค์ผ้าป่าและองค์พระกฐินมาทอดถวายที่วัดหนองสามพราน อยู่เนืองๆ จนพระอุโบสถและกำแพงแก้วล้อมลอบสร้างแล้วเสร็จ เมื่อกลางปี 67 นี้เป็นเงินค่าก่อสร้างกว่า 25,000,000 บาท โดยใช้ระยะเวลาการก่อสร้างจนแล้วเสร็จอย่างรวดเร็วเพียงไม่ถึง 4 ปี ถือว่าพระอาจารย์ไชยันต์ท่านเป็นพระนักพัฒนา สุดท้ายไม่เป็นที่พอใจต่อเจ้าอาวาส ทั้งๆ ที่พระอาจารย์ไชยันต์ ได้ร่วมกับทางผู้ใหญ่บ้านให้เป็นเจ้าอาวาส
 
ผู้สื่อข่าวก็ได้เดินทางไปยัง วัดหนองสามพราน เพื่อขอสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น แต่พระอธิการทุนเอ ธนสีโล เจ้าอาวาสวัดหนองสามพราน เกี่ยวกับที่ได้ปิดป้ายข้อความขับไล่พระอาจารย์ไชยยันต์  สุเมโธ ออกจากวัด ทั้งๆที่ พระอาจารย์ไชยยันต์ ไม่ได้มีพฤติกรรมมิชอบ  5.ข้อ แต่เจ้าอาวาสไม่ออกมาพบสื่อและชาวบ้านที่ไปรถแต่อย่างใด ซึ่งทั้ง 5 ข้อประกอบด้วย 1. อวดอ้างตนเป็นอาจารย์ มอมเมาประชาชน ด้วยอวิชชา สร้างความหลงผิดทางพุทธศาสนา 2. ทำการต่างๆ ภายในวัดโดยพลการ 3. สร้างความแตกแยกในหมู่ชาวบ้านหนองสามพรานเป็นสองฝ่าย 4. มีพฤติกรรมส่อไม่สุจริตเกี่ยวกับเงินทำบุญ 5.ประพฤติตนไม่อยู่ในโอวาทเจ้าอาวาส  ซึ่งการกระทำของ พระอาจารย์ไชยยันต์ ฯ ตามที่ปรากฏข้างต้นไม่เป็นความจริงแต่ประการใด
 
ล่าสุด พันเอกชัยสิทธิ์  สิงหราชโยธิน ประธานมูลนิธิพิทักษ์ไทย ทราบถึงปัญหาดังกล่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น พบว่าวัดแห่งนี้อยู่ในอณาเขตพื้นที่ สปก. ประมาณ 3 ไร่ แต่อยู่ๆ มาเกิดปัญหาขึ้น ทางมูลนิธิพิทักษ์ไทย จึงได้ทำหนังสือไปยังเจ้าของพื้นที่คือ สปก. ให้ทำการตรวจสอบที่ดินให้ถูกต้อง แต่เท่าที่เห็นที่มีการนำป้ายมาติดเพื่อขับไล่พระไชยันต์ นั้นเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะติดอยู่ในพื้นที่ไม่ใช่ของวัด และเป็นการทำไม่ถูก เพราะเจ้าอาวาสไม่ใช่ศาล มาติดป้ายทำการขับไล่ไม่ได้ ประกอบกับ พระไชยันต์ ก็ไม่ได้ผิดตามที่ถูกกล่าวหา ทั้ง 5 ข้อ ด้วย เรื่องนี้ทางเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล รวมถึงทางสำนักพุทธศาสนา จะต้องลงไปตรวจสอบให้ชัดเจน หากไม่ดำเนินการ ตนเองจะร้องไปยังเจ้าคณะภาคต่อไป
 
และจากการตรวจสอบแล้ว ยังพบว่า พระอธิการทุนเอ ยังเป็นต่างด้าว ปล่อยให้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ได้อย่างไร ถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่ นอกจากนี้ยังทราบอีกว่ามีการปล่อยเงินกู้อีกด้วย โดยทางพระไชยันต์ เคยทำการขอกู้เงินมาก่อสร้างบูรณภายในวัด ยังต้องทำหนังสือกู้เงินซึ่งเรื่องเช่นนี้มีหลักฐานชัดเจนว่า พระอธิการทุนเอ เป็นทั้งชาวต่างด้าว แล้วเป็นเจ้าอาวาส สามารถทำเรื่องเช่นนี้ได้ด้วยหรือ ถือว่าผิดข้อของสงฆ์อย่างร้ายแรง โดยเฉพาะพระไชยันต์ กับผู้ใหญ่บ้านเห็นว่า พระอธิการทุนเอ บวชมานาน เป็นผู้ติดตามอดีตเจ้าอาวาสองเดิมที่มรณภาพไป จึงได้ลงชื่อให้ขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส แต่กับมาทำเรื่องที่สงฆ์ไม่สามารถทำได้อีก ถือว่าเรื่องนี้เป็นการเนรคุณ ด้วยหรือไม่ พันเอก ชัยสิทธิ  สิงหราชโยธิน กล่าว
 
ส่วน ร้อยโท สำราญ  วงษ์น้อย ตัวแทนชาวบ้านหนองสามพราน ได้กล่าวว่า ตนเองได้นำเอกสารไปของทราบเรื่องการสอบสวนพระไชยันต์ แต่ทั้งเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบล กล่าวเพียงสั้นๆ ว่าเรื่องนี้มันจบไปแล้ว ตามที่มีการสอบสวนไม่ได้ผิดอะไร แต่ทำไมทางเจ้าอาวาสยังนำป้ายข้อความไปติดตั้งให้เกิดการเข้าใจผิด เนื่องจากภายในวัดจะมีทั้งนักท่องเที่ยวและชาวบ้าน คณะครู ที่อยู่ใกล้กับวัดเกิดการสับสนกับเรื่องนี้ได้ ร้อยโท สำราญ  วงษ์น้อย กล่าวทิ้งท้าย
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา   ไหลวารินทร์
หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 มกราคม 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
13 ม.ค. 2568
ตามรายงานของศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในสิงคโปร์ (thaibizsingapore.com) ระบุว่า สิงคโปร์เป็นประเทศคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 8 ของไทย และไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 10 ของสิงคโปร์ จากสถิติของกระทรวงพาณิชย์และกรมศุลกากร ปริมาณการค้าไทย-สิงคโปร์ ปี 2565 มีมูลค่ารวม 644,383 ...