น.ส.วงศ์อะเคื้อ บุญศล โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 13–19 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ศูนย์ AOC 1441 (Anti Online Scam Operation Center) ได้มีรายงานเคสตัวอย่างอาชญากรรมออนไลน์ที่ประชาชนได้รับผลกระทบจากการถูกหลอกลวง จำนวน 5 เคส ที่น่าสนใจ ประกอบด้วย
คดีที่ 1 คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล หรือวัตถุประสงค์อื่นๆ มูลค่าความเสียหาย 1,302,986 บาท โดยผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากมิจฉาชีพผ่านช่องทาง Facebook ชักชวนซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า ผู้เสียหายสนใจทักไปสอบถามข้อมูลเพิ่มผ่านทาง Messenger Facebook และเข้ากลุ่ม Line จากนั้นมิจฉาชีพแจ้งว่าต้องจ่ายค่าสมัครสมาชิกก่อนจึงจะโพสต์ขายสินค้าได้ ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไป ต่อมามีการชักชวนให้โอนเงินลงทุนเพื่อรับค่าคอมมิชชัน แต่ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก
คดีที่ 2 คดีหลอกลวงให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ มูลค่าความเสียหาย 7,959,500 บาท โดยผู้เสียหายพบโฆษณาสอนการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์จากเว็บไซต์ ผู้เสียหายสนใจจึงสอบถามรายละเอียดและเพิ่มเพื่อนทาง Line จากนั้นชักชวนให้เข้า Group Line สอนการลงทุนและให้ติดตั้งแอปพลิเคชันเพื่อเปิดพอร์ตการลงทุน ครั้งแรกสามารถถอนเงินจากระบบได้จริง มิจฉาชีพแนะนำให้โอนเงินลงทุนเพิ่มเพื่อได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น ต่อมาผู้เสียหายต้องการถอนเงิน แต่ไม่สามารถถอนได้ผู้เสียหายเชื่อว่าตนถูกมิจฉาชีพหลอก
คดีที่ 3 คดีหลอกลวงให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ มูลค่าความเสียหาย 7,744,476 บาท โดยผู้เสียหายพบโฆษณาเชิญชวนเทรดหุ้นรวยง่ายผ่านช่องทาง Facebook ผู้เสียหายสนใจทักไป สอบถามรายละเอียดและเพิ่มเพื่อนทาง Line มิจฉาชีพแนะนำและสอนขั้นตอนวิธีการต่าง ๆ ในการเทรดหุ้น ผู้เสียหายจึงโอนเงินเพื่อเทรดหุ้น ในช่วงแรกสามารถถอนเงินจากระบบได้ เมื่อโอนเงินเพิ่มและเทรดหุ้นได้จำนวนมากขึ้น แต่ไม่สามารถถอนเงินได้ ตรวจสอบทราบภายหลังจากหน้าเพจ พบว่ามีการแสดงความคิดเห็นด้วยไอคอนรูปหน้าอารมณ์โกรธ ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนถูกมิจฉาชีพหลอก
คดีที่ 4 คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล หรือวัตถุประสงค์อื่นๆ มูลค่าความเสียหาย 2,152,954 บาท ทั้งนี้ผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากมิจฉาชีพผ่านข้อความทางโทรศัพท์ อ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่ บริษัท ออล เอ็กซ์เพลส แจ้งว่ามีกิจกรรมพิเศษแจกอุปกรณ์เครื่องครัว ให้เพิ่มเพื่อนทาง Line ชักชวนทำกิจกรรมโอนเงินเพื่อรับค่าตอบแทนที่สูงขึ้น ผู้เสียหายสนใจจึงโอนเงินไป ช่วงแรกสามารถถอนเงินออกมาได้จริง จึงโอนเงินเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่สามารถถอนเงินได้ เมื่อสอบถามไปยังมิจฉาชีพแจ้งว่าผู้เสียหายทำการถอนเงินบ่อยเกินไปทำให้ระบบล็อก ต้องโอนเงินไปเพื่อเปิดระบบให้ทำการแก้ไข ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก
และคดีที่ 5 คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ มูลค่าความเสียหาย 1,999,929 บาท โดยผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากมิจฉาชีพผ่านช่องทาง Facebook ชักชวนทำงานหารายได้พิเศษ โดยการโอนเงินสำรองทุนในการสั่งสินค้ามาจำหน่ายเพื่อรับค่าคอมมิชชัน ผู้เสียหายสนใจจึงสอบถามรายละเอียดผ่านทาง Messenger Facebook แล้วเพิ่มเพื่อนทาง Line ทำตามขั้นตอนที่มิจฉาชีพแนะนำ ช่วงแรกได้รับเงินจริง จึงโอนเงินไปลงทุนเรื่อย ๆ แต่ไม่สามารถถอนเงินได้ มิจฉาชีพอ้างว่ายอดเงินมูลค่าสูงต้องชำระค่าภาษีก่อน จากนั้นโอนเงินไปแล้วก็ยังไม่สามารถถอนได้ ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนถูกมิจฉาชีพหลอกสำหรับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้ง 5 คดี รวม 21,159,845 บาท
“จากเคสตัวอย่างจะเห็นได้ว่า มิจฉาชีพ ใช้วิธีการหลอกลวงผู้เสียหาย ด้วยการหลอกให้ลงทุน เพื่อหารายได้พิเศษ หรือหลอกลวงชวนเทรดหุ้น และซื้อสินค้าเพื่อการลงทุน ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย คือ Facebook และส่วนใหญ่มีการให้เพิ่มเพื่อนทาง Line เพื่อสมัครเข้าร่วมลงทุน และมีการใช้ข้ออ้างต่างๆ เพื่อหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินลงทุนอย่างต่อเนื่อง เมื่อผู้เสียหายต้องการถอนเงิน มิจฉาชีพจะกล่าวอ้างว่ามีการทำผิดกฎไม่สามารถถอนเงินได้ ทั้งนี้ขอย้ำว่า การลงทุนในธุรกิจที่ไม่มีการรับรองโดยหน่วยงานที่มีความน่าเชื่อถือ เป็นการเสี่ยงต่อการถูกหลอกลวง ขอให้ผู้เสียหายตรวจสอบ และติดต่อสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสอบถามรายละเอียดให้แน่ชัด หรือติดต่อผ่านทางสายด่วน AOC 1441 เพื่อยืนยันตรวจสอบข้อเท็จจริง ก่อนที่จะมีการดำเนินการใดๆ โดยควรสอบถามรายละเอียดให้แน่ชัด” น.ส.วงศ์อะเคื้อ กล่าวอย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนยึดหลัก 4 ไม่ คือ 1. ไม่กดลิงก์ 2.ไม่เชื่อ 3.ไม่รีบ และ 4.ไม่โอน ก่อนที่จะทำธุรกรรมใดๆ อย่ากดเข้าลิงก์เว็บไซต์ หรือดาวน์โหลด และอัปโหลดแพลตฟอร์ม ที่มีการส่งต่อจากช่องทางที่ไม่แน่ใจ โดย กระทรวง ดีอี ได้เร่งดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการเผยแพร่ให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันภัยอาชญากรรมออนไลน์ ผ่านศูนย์ AOC 1441 เพื่อแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกับประชาชนอย่างต่อเนื่อง