(1) ความก้าวหน้าการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ-หนองคาย ระยะที่ 1 ช่วง กรุงเทพ-นครราชสีมา มีความคืบหน้าในสัญญาการก่อสร้างงานโยธาโดยรวมร้อยละ 35.75 โดยก่อสร้างแล้วเสร็จ 2 สัญญา คือช่วงกลางดง-ปางอโศก และช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 10 สัญญา และอยู่ระหว่างการจัดซื้อจัดจ้าง 2 สัญญา โดยได้จัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) ขึ้นเรียบร้อยแล้ว
ส่วนระยะที่ 2 ช่วง นครราชสีมา-หนองคาย คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2573 โดยปัจจุบันออกแบบเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างการเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติพิจารณารายงาน EIA ทั้งนี้คณะกรรมการรถไฟแห่งประเทศไทยได้มีมติเห็นชอบอนุมัติการดำเนินโครงการ จากนั้นจะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

(2) การเชื่อมต่อทางรถไฟช่วงหนองคาย-เวียงจันทน์มี 5 แผนงาน คือ

2.1) โครงการรถไฟทางคู่ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการประกวดราคา คาดว่าเปิดให้บริการปี 2570

2.2) การปรับปรุงสะพานมิตรภาพเพื่อรองรับการขนส่งสินค้าด้วยน้ำหนักกดเพลา 20 ตัน/เพลา นั้นกรมทางหลวงได้ดำเนินการศึกษาความสามารถในการรับน้ำหนัก โดยสำนักงบประมาณได้อนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษางานก่อสร้างส่วนเสริมเพื่อให้สะพานมิตรภาพสามารถรับน้ำหนักได้เพิ่มแล้ว

2.3) การก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ ไทย-ลาว ตกลงร่วมลงทุนค่าใช้จ่ายร่วมกันในอาณาเขตของแต่ละฝ่าย ปัจจุบันอยู่ระหว่างการออกแบบรายละเอียดและจัดทำ EIA

2.4) การพัฒนาย่านขนส่งสินค้า ปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณาแบ่งพื้นที่คงเหลือจากการใช้เป็นพื้นที่ตรวจปล่อย เพื่อออกประกาศเชิญชวน โดยจะกำหนดราคาค่าเช่าตามระเบียบต่อไป และคณะกรรมการฯ กำลังพิจารณานำส่งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจเพื่อดำเนินการตาม พ.ร.บ. การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ต่อไป

2.5) การเชื่อมต่อการเดินทางข้ามแดนในเส้นทางระหว่างท่านาแล้ง-เวียงจันทน์ (บ้านคำสะหวาด) ปัจจุบันแล้วเสร็จและเปิดให้บริการแล้ว

“รัฐบาลคาดหวังให้โครงการเส้นทางรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ-หนองคาย-เวียงจันทน์-จีน เป็นโอกาสของภาคอีสานและโอกาสประเทศไทยในการเชื่อมโยงไทยกับเศรษฐกิจโลก สร้างโอกาสให้คนไทยได้ทำการค้าการลงทุนกับตลาดในภูมิภาค รวมไปถึงตลาดโลกที่มีประชากรอยู่กว่า 8 พันล้านคน โดยโครงการนี้นับเป็นอีกก้าวของรัฐบาลในการเร่งรัดเดินตามแผนยุทธศาสตร์ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานวางอนาคตให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการคมนาคมและการขนส่งของภูมิภาค (Logistic Hub) ตามที่นายกรัฐมนตรีได้กล่าวถ้อยคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภาของประชาชน” นายจิรายุกล่าว