กรมชลประทาน เร่งเดินหน้า 9 แผนโครงการบรรเทาอุทกภัยในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง มั่นใจแก้น้ำท่วมได้เบ็ดเสร็จ ก่อน พิษเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อทำค่าก่อสร้างพุ่ง
นายฐนันดร์ สุทธิพิศาล รองอธิบดีฝ่ายก่อสร้าง กรมชลประทาน เปิดเผยว่าในปี 2554 ที่เกิดปัญหาน้ำท่วมครั้งใหญ่ เป็นโจทย์ให้ศึกษาและกำหนดโครงการบรรเทาอุทกภัยในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง พบว่า มีปริมาณน้ำเหนือที่ไหลหลากลงมากเกินปริมาณน้ำที่แม่น้ำเจ้าพระยาจะลองรับได้เหนือเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาทประมาณ 1,800 ลบ.ม. ต่อวินาที ดังนั้นเพื่อไม่ให้ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นอีก จึงต้องมีแนวทางบริหารจัดการน้ำ ให้ระบายออกสู่ทะเลได้เร็วและมากขึ้น
ผลการศึกษาได้ 9 แผนงานหลักในการบรรเทาอุทกภัยในลุ่มน้ำเจ้าพระยา หากแล้วเสร็จ ทั้งหมดจะสามารถตัดยอดน้ำหลากหน้าเขื่อนเจ้าพระยาได้เพิ่มขึ้น 790-870 ลบ.ม.ต่อวินาที ระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 2,800 ลบ.ม.ต่อวินาที เพิ่มความสามารถระบายน้ำแม่น้ำท่าจีน 70 ลบ.ม.ต่อวินาที สามารถระบายลงสู่ทะเล 600 ลบ.ม ต่อวินาที เก็บกักน้ำหลากในคลองขุดใหม่รวม 266 ล้าน ลบ.ม. และในพื้นที่ลุ่มต่ำ 1,304 ล้าน ลบ.ม.
สำหรับ 9 แผนงาน ประกอบด้วย 1. แผนงานปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยา ฝั่งตะวันออกตอนล่าง ค่าก่อสร้าง 95,000 ล้านบาท ก่อสร้าง 6 ปี (2569-2574) ลักษณะโครงการเป็นการปรับปรุงคลองและอาคารชลประทานในพื้นที่เจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่างตั้งแต่ใต้แม่น้ำป่าสักบริเวณเขื่อนพระรามหก ผ่านคลองระพีพัฒน์ จนถึงชายทะเลอ่าวไทย เป้าหมายเพิ่มอัตราการระบายน้ำจาก 210 ลบ.ม.ต่อวินาที เป็น 400 ลบ.ม.ต่อวินาที ประกอบด้วย การปรับปรุงโครงข่ายคลองชลประทานเดิมจำนวน 22 คลอง ความยาวรวม 462.80 กิโลเมตร ตลอดจนการก่อสร้างและปรับปรุงอาคารชลประทานรวม 23 อาคาร
หากดำเนินการแล้วเสร็จ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่เจ้าพระยาฝั่งตะวันออกตอนล่าง เป็นแหล่งเก็บกักน้ำในคลองช่วงฤดูแล้งเพิ่มขึ้น 17 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี อีกทั้งยังสามารถป้องกันและลดพื้นที่น้ำท่วมได้ถึง 298,250 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 7 จังหวัด ประกอบด้วย พระนครศรีอยุธยา สระบุรี นครนายก ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร ที่สำคัญจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น
2. โครงการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล (คลองชัยนาท-ป่าสัก , ป่าสัก-อ่าวไทย) ค่าก่อสร้าง 1.72 แสนล้านบาท ก่อสร้าง 8 ปี (2571-2578) เป็นการปรับปรุงคลองและคลองขุดใหม่ทำหน้าที่ระบายน้ำหลากจากแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก มีการดำเนินการแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ปรับปรุงคลองระบายน้ำหลากชัยนาท-ป่าสัก ความยาวรวม 134.36 กิโลเมตร เพิ่มศักยภาพการระบายน้ำจาก 130 ลบ.ม.ต่อวินาที เป็น 930 ลบ.ม.ต่อวินาที
และคลองขุดใหม่จากป่าสัก-อ่าวไทย ความยาวรวม 135.55 กิโลเมตร ระบายน้ำหลากจากแม่น้ำป่าสักและแม่น้ำเจ้าพระยาที่มาจากคลองช่วงที่ 1 (ชัยนาท-ป่าสัก) ได้สูงสุด 600 ลบ.ม.ต่อวินาที ปัจจุบันช่วงคลองป่าสัก-อ่าวไทยอยู่ระหว่างปรับปรุง แก้ไข รายงาน( EIA) ตามความเห็นของคณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.)
3.คลองระบายน้ำควบคู่กับถนนวงแหวนรอบที่ 3 วงเงิน 1.7 แสนล้านบาท เป็นการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำอีก 1 โครงการ ซึ่งเป็นแนวทางเลือกในกรณีที่เพิ่มศักยภาพการระบายน้ำลงอ่าวไทยเพิ่มเติม ตามผลการศึกษาที่ JICA พิจารณาแนวทางเลือก จุดเริ่มต้นของคลองระบายน้ำเริ่มจากจุดเชื่อมแม่นํ้าป่าสักและแม่นํ้าเจ้าพระยามาบรรจบกันที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ผ่านปทุมธานี นนทบุรี ห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิ 10 กม. แล้ว นํ้าไหลลงสู่อ่าวไทยที่บางปู จ.สมุทรปราการ สามารถระบายน้ำได้ 500 ลบ.ม. ต่อวินาที หากก่อสร้างแล้วเสร็จคลองสายนี้จะตัดยอดน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณอ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ประมาณ 500 ลบ.ม.ต่อวินาที
2. โครงการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล (คลองชัยนาท-ป่าสัก , ป่าสัก-อ่าวไทย) ค่าก่อสร้าง 1.72 แสนล้านบาท ก่อสร้าง 8 ปี (2571-2578) เป็นการปรับปรุงคลองและคลองขุดใหม่ทำหน้าที่ระบายน้ำหลากจากแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก มีการดำเนินการแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ปรับปรุงคลองระบายน้ำหลากชัยนาท-ป่าสัก ความยาวรวม 134.36 กิโลเมตร เพิ่มศักยภาพการระบายน้ำจาก 130 ลบ.ม.ต่อวินาที เป็น 930 ลบ.ม.ต่อวินาที
และคลองขุดใหม่จากป่าสัก-อ่าวไทย ความยาวรวม 135.55 กิโลเมตร ระบายน้ำหลากจากแม่น้ำป่าสักและแม่น้ำเจ้าพระยาที่มาจากคลองช่วงที่ 1 (ชัยนาท-ป่าสัก) ได้สูงสุด 600 ลบ.ม.ต่อวินาที ปัจจุบันช่วงคลองป่าสัก-อ่าวไทยอยู่ระหว่างปรับปรุง แก้ไข รายงาน( EIA) ตามความเห็นของคณะกรรมการผู้ชำนาญการ (คชก.)
3.คลองระบายน้ำควบคู่กับถนนวงแหวนรอบที่ 3 วงเงิน 1.7 แสนล้านบาท เป็นการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำอีก 1 โครงการ ซึ่งเป็นแนวทางเลือกในกรณีที่เพิ่มศักยภาพการระบายน้ำลงอ่าวไทยเพิ่มเติม ตามผลการศึกษาที่ JICA พิจารณาแนวทางเลือก จุดเริ่มต้นของคลองระบายน้ำเริ่มจากจุดเชื่อมแม่นํ้าป่าสักและแม่นํ้าเจ้าพระยามาบรรจบกันที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ผ่านปทุมธานี นนทบุรี ห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิ 10 กม. แล้ว นํ้าไหลลงสู่อ่าวไทยที่บางปู จ.สมุทรปราการ สามารถระบายน้ำได้ 500 ลบ.ม. ต่อวินาที หากก่อสร้างแล้วเสร็จคลองสายนี้จะตัดยอดน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณอ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ประมาณ 500 ลบ.ม.ต่อวินาที