จากคลองกระแชงสู่แดนมังกร DPU จุดประกายท่องเที่ยว จ.เพชรบุรี เป็นหมุดหมายใหม่นักชิมคนจีน

มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) โดยวิทยาลัยนานาชาติจีน ได้รับทุนสนับสนุน​งานมูลฐาน ​(Fundamental Fund:FF) ปีงบประมาณ2567 จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)

เพื่อดำเนินโครงการ "การประยุกต์ใช้แนวคิดวงจรคู่ขนานและคติชนสร้างสรรค์ ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเชิงอาหารจังหวัดเพชรบุรีสู่ประเทศจีน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน" โดยโครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหารของจังหวัดเพชรบุรีในประเทศจีน โดยใช้แนวคิด "วงจรคู่ขนาน" และ "คติชนสร้างสรรค์"

ดร.เพ็ญพิสุทธิ์ สีกาแก้ว ผู้อำนวยการหลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการสอนภาษาจีนสำหรับชาวต่างชาติ วิทยาลัยนานาชาติจีน มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ในฐานะหัวหน้าโครงการ เปิดเผยว่า โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) โดยมีเป้าหมายเพื่อประชาสัมพันธ์ภูมิปัญญาด้านอาหารและวัฒนธรรมของเมืองเพชรบุรีให้เป็นที่รู้จักในประเทศจีน โครงการนี้ประยุกต์ใช้แนวคิด "วงจรคู่ขนาน" ซึ่งประกอบด้วย "วงจรภายใน" ที่เน้นการใช้ทุนทางวัฒนธรรมดั้งเดิมของท้องถิ่น และ "วงจรภายนอก" ที่อาศัยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในการโปรโมท ควบคู่ไปกับแนวคิด "คติชนสร้างสรรค์" ที่มุ่งพัฒนาทุนทางวัฒนธรรมให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้

โครงการนี้ได้นำร่องโดยการพานักศึกษาปริญญาตรีสาขาภาษาจีนลงพื้นที่ชุมชนคลองกระแชง อำเภอเมืองเพชรบุรี ซึ่งเป็นชุมชนที่มีทุนทางวัฒนธรรมหลากหลาย ทั้งโบราณสถานอย่างวัดมหาธาตุที่มีเจดีย์ตั้งแต่สมัยทวารวดี และโบราณวัตถุที่ค้นพบใต้แม่น้ำเพชรบุรี โดยนักศึกษาได้เข้าไปสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่น ทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ตอกกระดาษ ทำขนม และชมการแสดงหนังใหญ่ นอกจากนี้นักศึกษายังได้ทำหน้าที่เป็นนักท่องเที่ยวจำลอง เพื่อศึกษาประสบการณ์การท่องเที่ยวและให้ข้อเสนอแนะแก่ชุมชน

Ms.Yang Zi Ling นักศึกษาปริญญาโทสาขาการสอนภาษาจีนสำหรับชาวต่างชาติ วิทยาลัยนานาชาติจีนมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ นักศึกษาจีนที่เข้าร่วมโครงการ ได้แสดงความประทับใจต่อบรรยากาศที่สวยงามเป็นธรรมชาติและความเป็นมิตรของผู้คนในเพชรบุรี พวกเขารู้สึกตื่นเต้นที่ได้สัมผัสวัฒนธรรมไทย ได้ใส่ชุดโขน และได้ทานอาหารท้องถิ่นที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกเขาประทับใจในวัดมหาธาตุที่มีเจดีย์สีขาวสวยงาม ซึ่งเหมาะแก่การถ่ายรูปในชุดไทย

ดร.เพ็ญพิสุทธิ์ กล่าวเสริมอีกว่า ผลจากการลงพื้นที่ทำให้นักศึกษาได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับคนในชุมชน ชุมชนเองก็ได้เรียนรู้ว่าวัฒนธรรมของตนเองสามารถนำไปเผยแพร่ในระดับสากลได้อย่างไร นอกจากนี้นักศึกษาได้ผลิตคลิปวิดีโอสั้นๆ เพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวของเพชรบุรีผ่านสื่อสังคมออนไลน์ของจีน เช่น เสี่ยวหงซู (Red Note) โดยเน้นการนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม อาหาร และกิจกรรมที่น่าสนใจ

ดร.เพ็ญพิสุทธิ์ ได้ระบุอีกว่า จากการสำรวจข้อมูลบนสื่อออนไลน์ของจีน พบว่า “เพชรบุรี” ยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายเมื่อเทียบกับเมืองสร้างสรรค์อื่น ๆ ของไทย โดยข้อมูลการท่องเที่ยวของเพชรบุรีบนเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ของจีนยังมีจำกัด และส่วนใหญ่เน้นไปที่สถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ "สิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่ารัก" และโรงแรม ขณะที่ข้อมูลเชิงวัฒนธรรม เช่น การทำหนังใหญ่ อาหารท้องถิ่น และพิพิธภัณฑ์สมบัติใต้แม่น้ำเพชรบุรี ยังไม่ได้รับการนำเสนอในเชิงลึก

นอกจากนี้ ป้ายบอกทางและชื่อสถานที่สำคัญในชุมชนยังขาดข้อมูลภาษาจีน ดังนั้นโครงการนี้จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการรับรู้เกี่ยวกับเพชรบุรีในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน โดยมุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและอาหารให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยการนำเสนอผ่านสื่อต่างๆ ทั้งคลิปวิดีโอ ข้อความประชาสัมพันธ์ภาษาจีน และการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้

สำหรับโครงการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเชิงอาหารและวัฒนธรรมของเพชรบุรีสู่ประเทศจีน ถือเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน โดยอาศัยแนวคิด "วงจรคู่ขนาน" และ "คติชนสร้างสรรค์" ผนวกกับความร่วมมือของนักศึกษาจีนและคนในชุมชน โครงการนี้จึงไม่เพียงแต่จะช่วยเผยแพร่ความสวยงามและวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของเพชรบุรีให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสให้ชุมชนได้พัฒนาตนเองอย่างยั่งยืน และได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง

โครงการนี้ยังคงเดินหน้าพัฒนาและต่อยอด โดยมีแผนที่จะนำเสนอผลงานในงานมหกรรมวิจัยแห่งชาติ 2568 และให้ข้อเสนอแนะแก่ชุมชนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามยังคงมีความท้าทายในการประชาสัมพันธ์เพชรบุรีให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อผลักดันให้เพชรบุรี เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย สมกับที่ได้รับการประกาศจาก UNESCO ให้เป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร