องค์การเภสัชกรรม (อภ.) คว้ารางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2567 ด้านการพัฒนาองค์กรดีเด่น สะท้อนความมุ่งมั่นในการดำเนินงาน ภายใต้วิสัยทัศน์ “องค์กรหลักเพื่อความมั่นคงทางยาและเวชภัณฑ์ของประเทศ ที่ชาวไทยไว้วางใจและภาคภูมิใจ”
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น (SOE Awards) ประจำปี 2567 ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) จัดขึ้น โดยมี ภญ.วิลักษณ์ วังกานนท์ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม และคณะผู้บริหารองค์การเภสัชกรรม เป็นผู้แทนเข้ารับมอบรางวัล ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
ภญ.วิลักษณ์ วังกานนท์ รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม เปิดเผยว่า รางวัลรัฐวิสาหกิจดีเด่น ประจำปี 2567 ที่องค์การเภสัชกรรมได้รับในครั้งนี้ ถือเป็นรางวัลอันทรงเกียรติ สะท้อนถึงการดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ “องค์กรหลักเพื่อความมั่นคงทางยาและเวชภัณฑ์ของประเทศ ที่ชาวไทยไว้วางใจและภาคภูมิใจ” โดยดำเนินงานตามพันธกิจ ประกอบด้วย ผลิตยาและเวชภัณฑ์ที่มีคุณภาพมาตรฐานสากล เพื่อตอบสนองความต้องการ และความจำเป็นของประเทศ ศึกษาวิเคราะห์ วิจัย ตลอดจนสร้างนวัตกรรมทางยาและเวชภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึงการพัฒนาด้านผลิตภัณฑ์สมุนไพร ซื้อขายแลกเปลี่ยนยาและเวชภัณฑ์โดยสามารถรักษาระดับราคาที่เหมาะสม เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นได้ และดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการผลิตยาและเวชภัณฑ์ เพื่อคงความสามารถในการพึ่งพาตนเอง และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ
อภ.ได้ดำเนินงานและผลลัพธ์ที่สำคัญที่ส่งเสริมให้องค์กรมีตัวชี้วัดที่ดี อาทิ การนำหลักการทำงานแบบ Agile มาใช้ในโครงการที่สำคัญขององค์การเภสัชกรรมที่ต้องดำเนินการแบบข้ามสายงานทั้งหน่วยงานภายในองค์การเภสัชกรรม หน่วยงานภายนอก อีกทั้งผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ การเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตและยกระดับมาตรฐานการผลิตสู่มาตรฐานสากล โดยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต การบริหารแบบ Lean เพื่อเพิ่มคุณค่าในกระบวนการผลิต การทบทวนโครงสร้างและอัตรากำลังพร้อมศึกษาค่างานขององค์กร ให้รองรับการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์และแผนธุรกิจที่สอดรับกับภารกิจในระยะสั้นและระยะยาว การนำองค์กรที่ดีโดยพัฒนาทักษะที่นำ Agile/Scrum/Leadership Capabilities มาร่วมใช้ในกระบวนการทำงาน
การสร้างพันธมิตรกับเครือข่ายในการดำเนินงาน เช่น โครงการวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ชนิด Cell-based, โครงการวัคซีน Covid-19 เป็นต้น การพัฒนาผู้บริหารทุกระดับ โดย อภ. พัฒนาตาม Leadership Capability เน้นการ พัฒนา Leadership Skill การสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ (Learning Ecosystem) การพัฒนากลุ่มพนักงาน Outsource ดำเนินการเป็นประจำตามรอบเวลา มีกำหนดเป็นวิธีปฏิบัติและมีการตรวจประเมินตนเอง โดยหน่วยงาน GMP ทุกปี รวมถึงการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการดำเนินงาน
สำหรับผลงานที่โดดเด่นที่สะท้อนผ่านโครงการสำคัญ ได้แก่ การวิจัยพัฒนาวัคซีน Covid-19 วัคซีนป้องกันโควิดจากเทคโนโลยีไข่ไก่ฟัก ที่พัฒนาขึ้นในประเทศตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ได้สำเร็จเป็นรายการแรกและรายการเดียวของประเทศ และการผลิตยา Molnupiravir สำหรับรักษา Covid-19 รวมถึงการที่ อภ. มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น โดยสะท้อนผ่านตัวชี้วัดที่มีผลคะแนนที่ดีขึ้น ได้แก่ ความสามารถในการจัดหา/นำเข้ายารักษามะเร็ง การออกจำหน่ายผลิตภัณฑ์ใหม่ การประหยัดงบประมาณให้กับภาครัฐ โดยปีงบประมาณ 2566 ประหยัดได้ถึง 3,499 ล้านบาท
“องค์การเภสัชกรรมขอขอบพระคุณผู้มีส่วนสนับสนุนทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน สังคม ชุมชน ลูกค้า คู่ค้า และผู้ปฏิบัติงานองค์การเภสัชกรรมทุกคน ที่มีส่วนร่วมกับความสำเร็จในครั้งนี้ นับเป็นความภาคภูมิใจขององค์กรที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นทุ่มเทขององค์การเภสัชกรรม ที่จะทำให้คนไทยได้เข้าถึงยา วัคซีน เวชภัณฑ์ได้มากขึ้น และส่งผลให้ดำรงอยู่ในสังคมอย่างสุขภาพดี มีความสุขต่อไป” ภญ.วิลักษณ์ กล่าว
