หลังพายุกระหน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนเสียหาย 107 ครัวเรือน
จากกรณีฝนตกลงมาในพื้นที่ตำบลบ้องตี้อย่างรุนแรงและต่อเนื่องกันหลายชั่วโมงเมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา จากการสำรวจพบว่าพื้นที่หมู่ 1 บ้านบ้องตี้บน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 30 หลังคาเรือน ระบบประปาหมู่บ้านเสียหาย สะพานบริเวณด้านหลัง รพสต.บ้องตี้ ขาด 1 แห่ง แต่เส้นทางสัญจรไม่ถูกตัดขาด โดยสามารถอ้อมใช้เส้นทางอื่นได้ หมู่ที่ 2 บ้านบ้องตี้ล่าง มีประชาชนได้รับผลกระทบ 54 หลังคาเรือน ระบบประปาหมู่บ้านเสียหาย และหมู่ที่ 3 บ้านท้ายเหมือง ประชาชนได้รับผลกระทบ 23 หลังคาเรือน สะพานขาด 1 แห่ง บ้านเรือนประชาชนถูกตัดขาด 4 หลังคาเรือน
ล่าสุดวันนี้ 24 ก.พ.68 ที่บริเวณศาลาประชาคม หมู่ 1 บ้านบ้องตี้บน ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี นายพนม โพธิ์แก้ว สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย เขต 5 ได้รับมอบหมายจากนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้เป็นผู้แทนเดินทางไปพบปะเยี่ยมเยียนให้กำลังใจพร้อมมอบถุงยังชีพให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยน้ำท่วม ประมาณ 107 ครัวเรือน ซึ่งถุงยังชีพจำนวนหนึ่งได้รับการสนับสนุนจาก ธก.ส.โดยมีนายนิทัศน์ ลูกอินทร์ นายก อบต.บ้องตี้ นายติณณภพ ไตรรัตนชัยกูล ว่าที่ ส.อบจ.เขต อ.ไทรโยค รวมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านให้การต้อนรับ
หลังจากมอบถุงยังชีพให้กับชาวบ้านผู้ประสบภัยแล้วเสร็จ นายพนม โพธิ์แก้ว สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย เขต 5 พร้อมคณะได้เดินทางไปสำรวจพื้นที่ความเสียหายจุดสะพานข้ามลำห้วยด้านหลัง รพสต.บ้องตี้ พบว่าโครงสร้างของสะพานนั้นค่อนข้างแข็งแรง แต่ในวันที่ฝนตกกระสำน้ำได้พัดนำพาเศษวัชพืนรวมถึงท่อนไม้มาขาวงทางน้ำไหล ประกอบกับมีแสน้ำไหลเชี่ยวจึงทำให้สะพานพังเสียหาวยาวประมาณ 4 เมตร ซึ่งการสำรวจเพื่อหาแนวทางแก้ไขทั้งระสั้นและระยะยาว เพื่อให้ประชาชนสัญจรผ่านไปมาให้ได้โดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้นายพนม โพธิ์แก้ว สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทย เขต 5 กล่าวภายหลังว่า หลังจากเกิดสถานการณ์อุทกภัยขึ้นในพื้นที่ตำบลบ้องตี้ เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ท่านมีความห่วงใยและไม่ได้นิ่งนอนใจแต่ท่านติดภารกิจเร่งด่วนที่กระทรวง จึงมอบหมายให้ผมในฐานะ สส.ที่รับผิดชอบพื้นที่อยู่แล้วนำถุงยังชีพมาช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนชั่วคราว
สำหรับสะพานที่ถูกระแสพัดพังเสียหายที่มาตรวจสอบอยู่ในพื้นที่หมู่ 1 ต.บ้องตี้ เดินสะพานมีบล็อกคอนเวิร์สอยู่ 3 ช่อง แต่เมื่อมีฝนตกลงมาอย่างรุนแรงทำให้มีปริมาณน้ำไหลหลากผ่านสะพานเป็นจำนวนมาก อีกทั้งมีขยะและเศษวัชพืชมาอุดตันช่องระบายน้ำทำให้สะพานพังเสียหายในที่สุด
ซึ่งวันนี้ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ ได้สั่งการให้ทางหลวงชนบทลงพื้นที่มาตรวจสอบดูว่าจุดไหนที่เป็นเขตรับพิษชอบของทางหลวงชนบท ที่สามารถขับเคลื่อนงบประมาณซึ่งอาจจะเป็นงบกลางหรืองบปีเพื่อนำมาแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้
ซึ่งวันนี้ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ติดภารกิจสำคัญที่กระทรวงจึงมอบหมายให้ตนเดินทางลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบท และเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำที่ 7 (ราชบุรี)มาดูเรื่องการทำเขื่อนเพื่อป้องกันการกัดเซาะตามริมตลิ่ง
สำหรับพื้นที่หมู่ 3 บ้านท้ายเหมือง มีอ่างขนาดใหญ่รองรับปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอยู่แล้ว แต่ในวันดังกล่าวเป็นพายุฝนที่ก่อตัวขึ้นที่ชายแดนฝั่งประเทศเมียนมาแล้วเคลื่อนตัวเข้ามาตกในพื้นที่ตำบลบ้องตี้ที่มีชายแดนอยู่ติดกัน ที่สำคัญพายุฝนที่ตกลงมาไม่ได้ตกเหนืออ่างเก็บน้ำแต่ตกลงมาใต้อ่างเก็บน้ำ จึงเป็นสาเหตทำให้บ้านเรือนประชาชนถูกน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมและทรัพย์สินเสียหายดังกล่าว
เบื้องต้นนายแพทย์ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ นายก อบจ.กาญจนบุรี สั่งการให้เจ้าหน้าที่นำเครื่องจักรมาดำเนินการประพื้นที่โดยรอบสาพนที่ขาดเพื่อทำเส้นทางลำลองอ้อมเพื่อให้ประชาชนสามารถจรจรผ่านไปมาได้ชั่วคราวแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงาน จากสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้น ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา นอกจากประชาชนจะได้รับผลกระทบแล้ว เด็กๆนักเรียนก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน โดยเพจของ โรงเรียน ตชด.บ้านบ้องตี้ล่าง ได้ออกมาโพสต์เฟสบุ๊กว่า ขอรับบริจาคเสื้อผ้าผู้ใหญ่และเสื้อผ้าเด็ก ชุดนักเรียน รองเท้านักเรียน ให้กับครอบครัว และเด็กนักเรียนโรงเรียน ตชด.บ้านบ้องตี้ล่าง ที่น้ำท่วมบ้าน จากเหตุอุทกภัยน้ำท่วมตำบลบ้องตี้ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งเสื้อผ้าและสิ่งของส่วนใหญ่ถูกพัดไปกับกระแสน้ำ ท่านสามารถส่งเสื้อผ้ามาได้ที่ โรงเรียน ตชด.บ้านบ้องตี้ล่าง หมู่ 2 ต.บ้องตี้ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี รหัสไปรษณีย์ 71150
//////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์