ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
คุณภาพชีวิต ย้อนกลับ
สกสค. แก้หนี้ครู เลิกบังคับทำประกัน ปรับโครงสร้างหนี้ ชะลอฟ้อง
27 ก.พ. 2568

“สกสค.” เดินหน้า “แก้หนี้ครู 2568” เลิกบังคับทำประกัน -ปรับโครงสร้างหนี้ ร่วมกับธนาคารออมสิน ชะลอหรือระงับการฟ้องร้องและบังคับคดี ส่วนลูกหนี้ชั้นดี ได้ดอกเบี้ย 0%

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา “สกสค.” เดินหน้า “แก้หนี้ครู 2568” เลิกบังคับทำประกัน -ปรับโครงสร้างหนี้ ร่วมกับธนาคารออมสิน ชะลอหรือระงับการฟ้องร้องและบังคับคดี ส่วนลูกหนี้ชั้นดี ได้รับสิทธิ ดอกเบี้ย 0% คงที่ 1 ปี

นายพีระพันธ์ เหมะรัต เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า สกสค. ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินของครูและบุคลากรทางการศึกษาต่อเนื่อง และจากข้อมูล ณ วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2567 พบว่า มีครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เข้าร่วมโครงการสวัสดิการเงินกู้ การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) และการฌาปนกิจสงเคราะห์ในกรณีคู่สมรสถึงแก่ความตาย (ช.พ.ส.) รวมทั้งสิ้น 334,795 บัญชี โดยมีจำนวนเงินรวมทั้งสิ้น 273,838 ล้านบาท

สกสค. ร่วมกับ ธนาคารออมสิน ช่วยแก้หนี้ครู 2568 ผ่านมาตรการต่างๆ ดังนี้

กรณีครูและบุคลากรทางการศึกษาขอให้ช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน และลดภาระค่าครองชีพ เนื่องจากเบี้ยประกันคุ้มครองเงินกู้ที่มีอัตราสูงขึ้น สกสค. ได้ดำเนินการให้ธนาคารออมสินช่วยประสานงานกับบริษัทประกันภัย เพื่อลดอัตราค่าเบี้ยประกัน ซึ่งธนาคารออมสินได้มีมาตรการช่วยเหลือโดยการไม่บังคับทำประกันแต่ให้เป็นไปโดยความสมัครใจตามเงื่อนไขของธนาคาร

สกสค.และธนาคารออมสิน ได้หารือ เพื่อทำข้อตกลงแก้ไขข้อความในความร่วมมือเพิ่มเติมถึงประเด็นการสรรหาผู้รับประกันสินเชื่อให้สมาชิกได้เป็นทางเลือกตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สมาชิกผู้กู้ โดยความคุ้มครองต้องไม่น้อยกว่ากรมธรรม์เดิม

ขณะเดียวกันการทำประกันสินเชื่อยังคงให้เป็นไปตามความสมัครใจของสมาชิกเช่นเดิม ธนาคารออมสินลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับสมาชิกโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. – ช.พ.ส. เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ลดภาระค่าครองชีพแก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา สมาชิกโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.- ช.พ.ส. 

สินเชื่อโครงการเกื้อกูลผู้ประกอบวิชาชีพทางการการศึกษา ระหว่างวันที่ 1 กรกฏาคม – 31 ธันวาคม 2567 เป็นระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งมีครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับความช่วยเหลือในครั้งนี้เป็นจำนวน 230,000 ราย สามารถช่วยลดภาระ ดอกเบี้ยรวมปีละ 1,600 ล้านบาท

นอกจากนี้ สกสค. ร่วมกับธนาคารออมสินชะลอหรือระงับการฟ้องร้องและบังคับคดี เพื่อเปิดโอกาสให้มี การเจรจาไกล่เกลี่ยเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ ลดดอกเบี้ยหรือสนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ รวมทั้งให้ระงับการคิดดอกเบี้ยทันที ที่ผู้กู้เสียชีวิต 

โดย สกสค. เปิดให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ได้รับความเดือดร้อนลงทะเบียนอีเล็กทรอนิกส์ แสดงความจำนงขอเข้าร่วมโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สิน และได้ส่งข้อมูลให้ธนาคารออมสินพิจารณาให้ความช่วยเหลือ ซึ่งธนาคารออมสินได้แจ้งผลการพิจารณาให้ทราบว่าได้แก้ไขสำเร็จไปแล้วทั้งสิ้น 8,868 ราย คิดเป็นมูลค่าความช่วยเหลือรวมประมาณ 14,917 ล้านบาท

“สำหรับการสรรหาผู้รับประกันสินเชื่อให้สมาชิกได้เป็นทางเลือกนั้น จะทำรายละเอียดร่วมกับธนาคารออมสิน กำหนดมาตรฐานของบริษัทประกัน เพื่อให้ครูได้ประโยชน์อย่างสูงสุด โดยบริษัทประกันนั้นจะต้องอยู่ในรายชื่อของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ) 

รวมถึงบริษัทประกันเหล่านั้นจะต้องเป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านประกันสินเชื่อด้วย ทั้งนี้ในการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูสกสค.และธนาคารออมสินเห็นร่วมกันว่าครูที่เข้าโครงการปรับโครงสร้างหนี้ และไม่ขาดการชำระหนี้จะได้รับสิทธิพิเศษด้วยการปรับดอกเบี้ยชำระหนี้เหลือ 0% ในอัตราคงที่เป็นระยะเวลา 1 ปีด้วย” นายพีระพันธ์ กล่าว

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 1 - 15 มีนาคม 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
13 ม.ค. 2568
ตามรายงานของศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในสิงคโปร์ (thaibizsingapore.com) ระบุว่า สิงคโปร์เป็นประเทศคู่ค้าสำคัญอันดับที่ 8 ของไทย และไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 10 ของสิงคโปร์ จากสถิติของกระทรวงพาณิชย์และกรมศุลกากร ปริมาณการค้าไทย-สิงคโปร์ ปี 2565 มีมูลค่ารวม 644,383 ...