ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี (นางสาวแพทองธาร ชินวัตร) ที่ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางสาวจิราพร สินธุไพร) รับผิดชอบบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อปราบปรามการขายบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเข้มงวด จริงจัง และเด็ดขาด นั้น

เมื่อวันอังคารที่ 11 มีนาคม 2568 โดยการอำนวยการของนางสาวทรงศิริ จุมพล รองเลขาธิการ รักษาราชการแทน เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และนายฐิตินันท์ สิงหา  รองเลขาธิการ ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ สคบ. ลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง หลังสืบทราบว่ามีผู้ขายบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่นำสินค้าประเภทบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง มาฝากส่งที่บริษัทขนส่งเพื่อเตรียมจัดส่งให้แก่ผู้สั่งซื้อ  

ต่อมาในเวลา 18.17 น. นายเลิศศักดิ์ รักธรรม ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ พร้อมพนักงานเจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่ สคบ. รวมจำนวน 5 คน ได้เดินทางไปยังสถานที่รับฝากส่งสินค้าของบริษัทขนส่ง ซึ่งบริษัทขนส่งดังกล่าวได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี  จึงได้ทำการตรวจสอบกล่องสินค้าต้องสงสัย พบว่าภายในกล่องพัสดุมีบุหรี่ไฟฟ้าชนิดสูบแล้วทิ้ง และน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้าชนิดเปลี่ยนหัวสูบแล้วทิ้งเพื่อจัดส่งให้แก่ผู้ซื้อ  พนักงานเจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้พนักงานขนส่ง ทำการแยกกล่องสินค้าที่จัดส่งโดยผู้ส่งคนดังกล่าว ปรากฏว่ามีกล่องพัสดุทั้งสิ้น 671 กล่อง ในการนี้ พนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้ยึดกล่องพัสดุดังกล่าวทั้งหมด และจะได้สืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 

ทั้งนี้ การขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นความผิดฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยความปลอดภัยของสินค้าและบริการ ที่ 24/2567 ลงวันที่ 8 กรกฎาคม 2567 เรื่อง ห้ามผลิตเพื่อขาย ห้ามขายหรือให้บริการสินค้า บารากู่ บารากู่ไฟฟ้า หรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากุ่หรือบุหรี่ไฟฟ้า 

ท่านใดพบเห็นการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า น้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ หรือแจ้งสายด่วน สคบ. 1166 หรือ http://www.ocpb.go.th