นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมและมอบนโยบายการส่งออกผลไม้ แก่ผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุผลไม้ภาคตะวันออกฤดูกาลผลิตปี 2568” ณ โรงแรม นิว แทรเวิลลอด์จ อ.เมือง จ.จันทบุรี ว่า ขณะนี้ปัญหาการปนเปื้อน Basic Yellow 2 (BY2) และสารแคดเมียมในทุเรียนสดส่งออกไปจีน นับว่ามีผลกระทบอย่างมากต่อการส่งออกผลไม้ของไทย ทางการจีนจึงเพิ่มความเข้มงวดและออกกฎระเบียบในการควบคุมการนำเข้า การจำหน่าย ผลไม้นำเข้าจากประเทศไทย ซึ่งหากมีการตรวจพบการปนเปื้อน BY2 และสารแคดเมียมในผลทุเรียนสด และถูกระงับการนำเข้า จะส่งผลต่อเศรษฐกิจการส่งออกผลไม้ของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทบต่อราคาผลผลิตของเกษตรกร จึงได้มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบและมีภารกิจในการกำกับดูแลการตรวจติดตามโรงงานผลิตสินค้าพืชให้ได้มาตรฐาน เข้มงวดในการตรวจสอบคุณภาพผลผลิต และรับรองสุขอนามัยพืช ให้เป็นไปตามเงื่อนไขในพิธีสารส่งออกไปจีนอย่างเข้มงวด เพื่อให้การบริหารจัดการผลไม้ ตลอดห่วงโซ่การผลิตจนถึงกระบวนการส่งออก สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศอีกด้วย
“กระทรวงเกษตรฯ เน้นย้ำในเรื่องของการปฏิบัติตามมาตรการ 4 ไม่ เพื่อควบคุมคุณภาพทุเรียนไทย ปี 2568 ได้แก่ 1. ไม่อ่อน 2.ไม่หนอน 3.ไม่สวมสิทธิ์ และ 4.ไม่มีสี-ไม่มีสารเคมีต้องห้าม โดยมีเป้าหมาย “Set Zero” การใช้สี การใช้สารเคมีในโรงคัดบรรจุทั้งหมด” รวมถึงมาตรการ Big Cleaning เพื่อป้องกันการปนเปื้อนสารตกค้าง BY2 ซึ่งนับเป็นประเด็นปัญหาที่สำคัญอยู่ในขณะนี้ ซึ่งเรื่องคุณภาพและมาตรฐานกระบวนการผลิตสินค้าเกษตรในโรงคัดบรรจุ การกำกับดูแลผลไม้ให้เป็นไปตามมาตรฐาน จึงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุและโรงรวบรวมผลไม้ปฏิบัติได้ตามมาตรฐานและตามประกาศหลักเกณฑ์ที่กำหนด และมีการบูรณาการและสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ผลไม้ที่ส่งออกไปก็จะมีคุณภาพ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน ส่งเสริมภาพลักษณ์ สร้างความเชื่อมั่นและความพึงพอใจให้ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ การส่งออกผลไม้ของไทยก็จะราบรื่น เกษตรกรสามารถจำหน่ายผลไม้ได้ราคาดี ช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออกผลไม้ของไทย และสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการ และเกษตรกรได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป”