วันที่ 20 มีนาคม 2568  ณ โรงแรมริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) พร้อมด้วย นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวง พม. ศาสตราจารย์ ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน รองประธานคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดการขับเคลื่อนนโยบาย รมว.พม. และนายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวง พม. ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) กับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล พร้อมรับมอบป้ายสนับสนุนระบบปฏิบัติงานสำหรับผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ “Nirun for Community” จากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และซิมอินเทอร์เน็ตฟรีจากบริษัท บางกอก เทลลิ้ง จำกัด

นายธนสุนทร สว่างสาลี อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ กล่าวว่า ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ โดยปัจจุบันมีประชากรสูงวัยคิดเป็นร้อยละ 20.69 ของประชากรทั้งประเทศ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับอัตราการเกิดใหม่ที่ลดลง ส่งผลให้จำนวนผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่เพียงลำพังและขาดผู้ดูแลเพิ่มขึ้น ดังนั้น การดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุจึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ในครั้งนี้ กรมกิจการผู้สูงอายุได้รับการสนับสนุนจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลด้านองค์ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ และ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สนับสนุนแพลตฟอร์ม “Nirun for Community” เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของผู้บริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ และบริษัท บางกอก เทลลิ้ง จำกัด สนับสนุนซิมอินเทอร์เน็ตฟรีแบบไม่จำกัดปริมาณ (Unlimited Data) เป็นเวลา 4 เดือน เพื่อให้ผู้บริบาลสามารถให้บริการได้สะดวก รวดเร็ว และครอบคลุม 5 มิติหลัก ได้แก่ สังคม สุขภาพ เศรษฐกิจ สภาพแวดล้อม และเทคโนโลยี ช่วยให้ผู้สูงอายุมีหลักประกันความมั่นคงในชีวิต สามารถเข้าถึงบริการดูแลสุขภาพแบบบูรณาการ และการดูแลระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ศาสตราจารย์ นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า  คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ตระหนักถึงสถานการณ์ผู้สูงอายุของประเทศไทยที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว วันนี้คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลจึงเข้ามาทำงานร่วมกันกับกรมกิจการผู้สูงอายุ ช่วยกันพัฒนางานโดยเฉพาะงานบริบาลคุ้มครองสิทธิผู้สูงอายุ เพื่อให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพแข็งแรง ไม่ติดบ้าน ไม่ติดเตียง  และสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีคุณภาพ อีกทั้งสนับสนุนให้ผู้บริบาลรุ่นใหม่เข้ามามีบทบาทสำคัญในระบบการดูแลระยะยาว นอกจากนั้นยังเป็นการส่งเสริมความเอื้ออาทรระหว่างคนต่างวัยในสังคม ช่วยสร้างสังคมไทยที่เข้มแข็ง

ดร.พัชร์ลิตา ฉัตรวริศพงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวเสริมว่า สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้นำเทคโนโลยีมาพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อช่วยบันทึกข้อมูลการดูแลผู้สูงอายุและช่วยในการวางแผนการดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริบาลสามารถให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในประเทศไทยให้ได้รับการดูแลที่เหมาะสมและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นต่อไป