กกต.จัด คิก ออฟ ชวน ประชาชนออกมาเลือกตั้งเทศบาล ตั้งเป้าคนเข้าคูหา 70 % ย้ำผู้สมัครตรวจสอบคุณสมบัติ-ลักษณะต้องห้าม เตือนไม่มีสิทธิโดนโทษหนัก
เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จัดกิจกรรม kick off การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี "สร้างสรรค์ประเทศไทยพร้อมใจไปเลือกตั้ง" โดยมีนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เป็นประธานเปิดกิจกรรม ซึ่งการเลือกตั้งนี้จะมีขึ้นในวันที่ 11 พ.ค.2568 กรณีครบวาระจำนวน 76 จังหวัด 2,469 แห่ง โดยเป็นการเลือกตั้งทั้งสมาชิกและนายกเทศมนตรี จำนวน 2,121 แห่ง เป็นการเลือกตั้งเฉพาะสมาชิกสภาเทศบาล จำนวน 348 แห่ง เนื่องจากมีการเลือกกรณีพ้นจากตำแหน่งเพราะเหตุอื่นนอกจากครบวาระไปก่อนหน้านี้
โดยนายอิทธิพร ได้ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมของกกต.ในการจัดการเลือกตั้งโดยยืนยันว่ามีความพร้อมทุกด้านทั้งบุคลากร การประชาสัมพันธ์ รวมถึงภาคีเครือข่ายที่เข้ามาช่วยสนับสนุนการเลือกตั้งก็มีความพร้อมไม่ว่าจะเป็นกรมการปกครอง กรมประชาสัมพันธ์ โดยจะพยายามประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงความสัมพันธ์ของการเลือกตั้งท้องถิ่นในรูปแบบเทศบาล รวมถึงบัตรเลือกตั้งก็จัดพิมพ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว มีบัตร 2 ใบ โดยสีเหลืองทองจะเป็นบัตรเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและบัตรเลือกตั้งสีเขียวสำหรับเลือกสมาชิกสภาเทศบาล ทั้งนี้ขั้นตอนการรับสมัครเสร็จสิ้นไปแล้วตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา ประกาศรายชื่อ โดยวันที่ 11 เม.ย.จะมีการประกาศรายชื่อผู้สมัครหลังผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม
ส่วนจะมีการจับตาพื้นที่ไหนเป็นพิเศษในการส่งชุดเคลื่อนที่เร็วลงพื้นที่ไปตรวจสอบ นายอิทธิพรกล่าวว่า กกต.มีชุดเคลื่อนที่เร็วทุกจังหวัด โดยประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งส่วนใหญ่พบยังมีความเรียบร้อย และก็หวังว่าทุกฝ่ายจะปฏิบัติตามกฎหมาย เพราะแนวโน้มการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งที่ผ่านมาลดลงเรื่อยๆ โดยดูจากคำร้อง ซึ่งในการเลือกตั้งระดับ อบจ.ปี 2563 มีคำร้อง 600 กว่าเรื่อง และเมื่อเดือนก.พ.ปี 2568 มีคำร้อง 500 กว่าเรื่อง เชื่อว่าแนวโน้มน่าจะดีขึ้นเรื่องการแข่งขัน เรื่องการร้องเรียนการทำผิดกฎหมายก็จะน้อยลง และกกต. ได้เตรียมความพร้อม ยืนยันว่า กกต.ได้เตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งแล้วพร้อมจะทำให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรมและชอบด้วย โดยครั้งนี้ตั้งเป้าว่าจะมีประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งร้อยละ 70 เนื่องจากครั้ง ที่ผ่านมามีประชาชน ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งร้อยละ 66 แม้ว่ายอดเฉลี่ยจะดูน้อย แต่มีบางจังหวัดที่ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก เช่น จังหวัดพัทลุง ร้อยละ 83 ดังนั้นจึงต้องเพิ่มความพยายามในการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญของการเลือกตั้ง
เมื่อถามถึงการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครบางรายที่อาจมีลักษณะต้องห้ามในการลงรับสมัครเลือกตั้ง นายอิทธิพร กล่าวว่า โดยปกติ กกต.ก็จะมีหนังสือไปสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้สมัครทุกคนก็ควรต้องตระหนัก ว่าตัวเองมีคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามอย่างไรหรือไม่ ซึ่งมีข้อห้ามบัญญัติไว้ชัดเจนตามกฎหมายดังนั้นเป็นหน้าที่ของผู้สมัคร ที่ต้องรับรองตัวเองด้วยหากมาสมัครโดยไม่มีสิทธิ์ก็จะโดนดำเนินคดี ตามมาตรา 120
นายอิทธิพร ยังกล่าวถึงช่องทางในการตรวจสอบรายละเอียดเกี่ยวกับการเลือกตั้งระดับเทศบาล โดยสามารถตรวจสอบ 3 ช่องทาง คือเอกสารแจ้งเจ้าบ้าน ซึ่งจะแจกให้กับทุกบ้านอย่างน้อย 15 วันก่อนการเลือกตั้ง เว็บไซต์กกต. และ แอปพลิเคชั่นสมาร์ท โหวต หลังจากนี้ก็จะมีการนำข้อมูลของผู้สมัครทุกรายประชาชนได้ศึกษา สำหรับมีผู้มาสมัครการเลือกตั้งในระดับเทศบาลมีผู้มาสมัคร 65,000 คนโดยสมัครนายกเทศมนตรี ประมาณ4,500 คน ส่วนที่เหลือเป็นการสมัครสมาชิกสภาเทศบาล รวมถึงยังสามารถใช้แอปพลิเคชัาน ดังกล่าวตรวจสอบที่ตั้งของหน่วยเลือกตั้งและแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิได้