นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน อธิบดีกรมทางหลวงชนบท(ทช.) เปิดเผยนโยบายในการพัฒนาเส้นทางเพื่อเป็นการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวว่า เป็นนโยบายของทางกระทรวงคมนาคม ทาง ทช.จึงได้พยายามพัฒนาเส้นทางให้มีความเชื่อมต่อ และปัจจุบันได้มีการดำเนินการเฉพาะส่วนที่ทำได้เพราะเป็นพื้นที่ที่ไม่ติด ปัญหาด้านผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) และไม่ติดปัญหาเวนคืนพื้นที่เป็นถนนเดิมที่มีการกั้นเขตทางอยู่แล้ว โดยได้พยายามปรับปรุงถนนให้มีความเรียบและสะดวกขึ้นแต่ยังคงเป็น 2 ช่องจราจรอยู่ บางพื้นที่มีการทำเป็นจุดชมวิวบางพื้นที่ที่เป็นพื้นที่สาธารณะ อาจจะมีการทำเป็นจุดจอดรถที่ขณะนี้จุดจอดพักรถ ขนาดใหญ่ที่ชุมพรได้ดำเนินการแล้วเสร็จแล้ว
"ขณะนี้ได้มีการใช้งบประมาณในการดำเนินการพัฒนาเส้นทางดังกล่าวไปแล้วประมาณ 2,000 กว่าล้าน แต่ยังเหลืออีกประมาณ 200 กว่ากิโลเมตร ที่ยังต้องมีการดำเนินการก่อสร้างต่อไป ในเบื้องต้นได้ประเมินงบประมาณในการดำเนินการไว้ประมาณ 5,000 กว่าล้าน ทั้งโครงการระยะทางประมาณ 514 กิโลเมตร จากภาพรวมทั้งหมดระยะทาง 683 กิโลเมตร แบ่งเป็นของกรมทางหลวง (ทล.) 150 กิโลเมตร องค์การส่วนท้องถิ่น 18 กิโลเมตร"
ทั้งนี้ การพัฒนาเส้นทางเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวนั้นจะมีสิ่งอำนวยความสะดวก จุดชมวิว จุดจอดรถ และเส้นทางจักรยาน ในส่วนของเส้นทางจักรยานนั้นจะไม่แยกออกเป็นเส้นทางจักรยานอย่างเดียวแต่จะเป็นลักษณะการใช้ไหล่ทางเพื่อประหยัดงบประมาณและประหยัดพื้นที่ เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่ได้มีการกั้นเขตทางไว้มากนัก โดยในปี 2562 ทาง ทช.ได้รับการประสานจากสำนักงบประมาณให้ดำเนินการทั้งหมด 2 โครงการ ระยะทางรวม 48 กิโลเมตร
สำหรับประโยชน์ของเส้นทางในการพัฒนาโครงการนั้น มีการนำข้อมูลการพัฒนาโครงการในจังหวัดระยอง จันทบุรี มาอ้างอิง ซึ่งพบว่าเดิมที่ดินข้างทางไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์ภายหลังได้มีการพัฒนาครบ 100 กิโลเมตร เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงพัฒนา 2 ข้างทาง เช่น ที่พัก รีสอร์ท ร้านค้า ฯลฯ ส่งผลให้มีกิจกรรมที่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาและเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น
มีรายงานแจ้งว่า สำหรับโครงการดังกล่าว จะพัฒนาถนนเลียบชายฝั่งทะเลตะวันตกตั้งแต่จังหวัดเพชรบุรี-จังหวัดระนอง เสร็จภายใน ปี 2565 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวตามแนวชายฝั่งอีกทั้งยังเป็นการดำนินตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม ที่ต้องการให้พัฒนาถนนเพื่อส่งเสริมตลาดท่องเที่ยวไทย
ขณะที่ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคมและโฆษกกระทรวงคมนาคม เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้รับมอบให้ดำเนินการก่อสร้างถนนเลียบชายฝั่งทะเลด้านตะวันตก เพื่อใช้เป็นโครงข่ายเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวตามแนวชายฝั่งทะเลภาคกลางตอนล่างต่อเนื่องไปยังภาคใต้ตอนบนครอบคลุมพื้นที่ จ.สมุทรสงคราม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีทรัพยากรทางการท่องเที่ยว สามารถส่งเสริมและพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณภาพได้
รวมทั้งเป็นเส้นทางสายรองสำหรับการเดินทางลงสู่ภาคใต้ โดย ทช. ได้ดำเนินการก่อสร้างถนน สายบ้านคลองโคน – บ้านบางตะบูน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และ อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี โดยมีจุดเริ่มต้นจากแยกทางหลวงหมายเลข 35 สายธนบุรี – ปากท่อ บริเวณ กม. ที่ 73+000 ต.ยี่สาร อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ระยะทาง 14.386 กิโลเมตร งบประมาณการก่อสร้างทั้งสิ้น 297.180 ล้านบาท ปัจจุบันผลการดำเนินงานมีความคืบหน้า ร้อยละ 86.25 คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้ประชาชนสัญจรได้ประมาณเดือนพฤษภาคม 2561