กฏเหล็ก! คุมสมาชิกสภาท้องถิ่น
ชำแหละ "จริยธรรม" นักการเมือง
ไหว้สวย-รับจบ คดีชกนักข่าว!
“รับจบ”... กันไปแล้ว!
ไหว้สวย...
ยกมือวันทา...ข้าคือคนผิด “ขอโทษ” โปรดอโหสิกรรม!
กรณีพิพาท ระหว่าง “สจ.”นักการเมืองท้องถิ่น ชกหน้า “นักข่าว”ประจำอำเภอสัตหีบ ง้างหมัดซัดหน้า แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ด้วยเหตุผล “กูไม่ชอบขี้หน้ามึง” เหตุเกิดในสถานบันเทิงย่านใจกลางอำเภอ
งานนี้ร้อนถึงผู้หลักผู้ใหญ่ มีตำแหน่งแห่งหนเป็นถึง ท่านรองฯ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ลงมาเป็น “กาวใจ” เป็นตัวยาสมานริ้วรอยบาดแผลในใจ รอมชอมให้ทั้งคู่ “หยวน-หยวน” กันไป
ปิดดีล...รับจบ ด้วยท่าไหว้สวยๆ แบบแฮปปี้เอนดิ้ง!!
ส่วนคดีความ ข้อหาทำร้ายร่างกาย ไม่ถึงกลับเลือดตกยางออก อาการไม่ขนาดสาหัสสากรรจ์ ไม่ถึงกับติดคุกตะราง แค่ปรับ ก็ว่ากันไปตามครรลองครองธรรม
จบนะ!...ตัวเอง!!!
กลับมาพลิกตำรา ดูเรื่องที่จะว่าต่อไปนี้.... บอกก๊อน..! บอกก่อนนะว่า ไม่เกี๊ยว!ไม่เกี่ยว กับคดี “สจ.กร่าง” ต่อยปากนักข่าวสัตหีบ
แต่จะหนีบเรื่อง “ประมวลจริยธรรมสมาชิกสภาท้องถิ่น” มาสาธยายเล่าสู่กันฟัง!
กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เคยมีหนังสือด่วนที่สุด ที่ มท 0804.6/ว1121 ลงวันที่ 20 เมษายน 2565 แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ นายกฯและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดทุกแห่ง นายอำเภอทุกอำเภอ ,นายกฯและสมาชิกสภาเมืองพัทยา ,นายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลฯทุกแห่ง ในทุกระดับชั้น ,นายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล รวมไปถึง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นที่มีกฎหมายจัดตั้ง แต่ไม่รวมถึงสภากรุงเทพมหานคร
ให้ทุกองค์กร รับรู้รับทราบ ให้ผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น ยึดถือปฏิบัติ “ประมวลจริยธรรมผู้บริหารท้องถิ่น และประมวลจริยธรรมสมาชิกสภาท้องถิ่น” ที่ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 139 ตอนพิเศษ81ง เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2565
โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป...
“ประมวลจริยธรรมผู้บริหารท้องถิ่น และประมวลจริยธรรมสมาชิกสภาท้องถิ่น” เขียนขึ้นตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา76 วรรคสาม บัญญัติให้รัฐพึงจัดให้มีมาตรฐานทางจริยธรรม เพื่อให้หน่วยงานของรัฐ ใช้เป็นหลักในการกำหนด ประมวลจริยธรรม สำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐในหน่วยงานนั้นๆ
พลิกดูเฉพาะในหมวด “จริยธรรมสมาชิกสภาท้องถิ่น”มีด้วยกัน รวม 13 ข้อ เป็นการวางกรอบ เสมือนกฎเหล็ก ครอบคลุมทั้งในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ ต้องยึดมั่นใน 3สถาบันหลักของชาติ ดำรงตนเป็นแบบอย่างที่ดี และรักษาภาพลักษณ์ของทางราชการ ตั้งมั่นอยู่บนความซื่อสัตย์สุจริต มีจิตสำนึกที่ดีและรับผิดชอบต่อหน้าที่ ยึดถือประโยชน์ส่วนรวม ของประเทศชาติ และความผาสุกของประชาชนในส่วนรวม และมีจิตสาธารณะ ฯลฯ
ยกตัวอย่างข้อ4 (6) “ไม่กระทำการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสีย ต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง”
ข้อ9 ระบุว่า.... “สมาชิกสภาท้องถิ่นพึ่งดำรงตนเป็นแบบอย่างที่ดี และรักษาภาพลักษณ์ของทางราชการโดยอย่างน้อยต้องดำรงตน ดังต่อไปนี้
ในข้อ(2) เขียนว่า....เป็นแบบอย่างที่ดีในการเป็นพลเมืองดี ด้วยการเคารพและปฏิบัติตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด
ส่วนในข้อ (3)... สมาชิกสภาท้องถิ่น ปฏิบัติตนอยู่ในกรอบจริยธรรม คุณธรรม และศีลธรรม ทั้งโดยส่วนตัว และโดยหน้าที่ความรับผิดชอบ ต่อสาธารณชน
จริยธรรมอีกข้อ ในวงเล็บ (5) เคารพและไม่ละเมิดสิทธิ์และเสรีภาพ ของผู้อื่น ไม่แสดงกิริยาหรือวาจา อันไม่สุภาพ อาฆาตมาดร้าย หรือใส่ร้ายหรือเสียดสีบุคคลใด
หยิบยกมาให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาพอหอมปากหอมคอ...
จริยธรรม จะดูงดงาม ดูสมเกียรติสมฐานะแห่งการดำรงตน บนตำแหน่ง “นักการเมือง” ที่สวมใส่เครื่องแบบสีของแผ่นดินอันทรงเกียรติยศศักดิ์ศรี หรือไม่?
อยากได้ช่อดอกไม้ คล้องมาลัย “สุภาพบุรุษนักการเมือง” หรือ โดนเหวี่ยงด้วยกระถางต้นไม้ กลายเป็น “นักการเมืองอันธพาล” ที่ชาวบ้านประจานก่นด่า!จงเลือกเอา!
ฝากถึง…การประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดฯ นัดต่อไป...
ไม่ควรปล่อยผ่าน ประเด็น “ปลาเน่าตัวเดียว” ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของสภาฯอันทรงเกียรติ ซึ่งเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ประชาชนให้ความไว้วางใจ อย่างสูงสุด...
ช่วยต้มยาขม “จริยธรรม” แล้วจับกรอกปากหน่อย...
บางทีคนจำพวก “รู้ที่ไป แต่ลืมที่มา” โดนตำรับยาต้มขนานเอกเข้าไป “ต่อมสำนึกได้” ใต้หนังกะโหลกหนาๆ อาจฟื้นคืนกลับมา!
สภาฯคืออัครสถานของผู้แทนอันทรงเกียรติ ที่มาจากเสียงประชาชน...
อย่าให้มัวหมอง!
อั๋นพันดาว