กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โชว์ผลสำเร็จ ดันผลไม้และอาหารไทยเข้าไปขายออนไลน์ใน Tmall.com ได้เพิ่มขึ้นอีก มียอดซื้อขายกว่า572 ล้านบาท เฉพาะ “ลำไย” มาแรงสุด สั่งซื้อกว่า 200 ล้านบาท เผยยังประสบความสำเร็จในการผลักดันสินค้าไทยเข้าไปจำหน่ายในแพลต์ฟอร์มค้าออนไลน์ชื่อดัง ทั้งRedmart.com , Amazon.com และGosoko.com มียอดซื้อขาย 4.5 ล้านบาท

          นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงผลการจัดเจรจาธุรกิจในงาน Thai Flagship Store Business Matchingร่วมกับ Tmall.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ค้าปลีก (B2C) ที่ใหญ่ที่สุดในจีน ภายใต้บริษัท อาลีบาบา กรุ๊ป ในช่วงการจัดงานแสดงสินค้าอาหาร THAIFEX 2018 ว่า มีผู้ประกอบการผลไม้และอาหารของไทยจำนวน 72 บริษัทที่ได้มาเจรจาซื้อขายสินค้ากับฝ่ายจัดซื้อของ Tmall.com โดยหลังจากเจรจาคาดว่าจะมีการซื้อขายทั้งหมด 572,273,055 บาท ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสให้กับสินค้าไทยเข้าไปเปิดตลาดในจีนได้เพิ่มมากขึ้น

สำหรับสินค้าที่ Tmall.com ซื้อไปจำหน่ายทางเว็บไซต์ ได้แก่ ข้าว ผลิตภัณฑ์จากข้าว ผลไม้แปรรูป ผลไม้สด (ลำไย ลำไยอบแห้ง ทุเรียน ทุเรียนอบแห้ง มะพร้าว มะพร้าวน้ำหอม มะพร้าวอ่อน มะม่วง น้ำผลไม้ กล้วยแปรรูป เงาะอบแห้ง มังคุด ส้มโอ สับปะรด) และอาหารสัตว์

“ในการเจรจาจับคู่ธุรกิจครั้งนี้ ลำไยเป็นสินค้าที่ได้รับความสนใจจาก Tmall.com เป็นอย่างมาก โดยยอดที่ซื้อทั้งหมด คาดว่าจะเป็นการซื้อลำไยประมาณ 8,000-10,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าราว 200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเท่าตัวจากปีที่ผ่านมา และคาดว่าการสั่งซื้อจะโตต่อเนื่องภายใน 3 ปี โดยแต่ละปีจะโตมากกว่า 100% ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จตามนโยบายของนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้กรมฯ หาช่องทางในการผลักดันให้ลำไยเข้าไปจำหน่ายในTmall.com ตามหลังทุเรียนที่ประสบความสำเร็จก่อนหน้านี้”นางจันทิรากล่าว

นางจันทิรากล่าวว่า ในการจัดงาน THAIFEX 2018 กรมฯ ยังได้จัดโครงการ โครงการ Cross-Border e-Commerce Solutions & Business Matching โดยเชิญแพลตฟอร์มค้าออนไลน์ชื่อดังของประเทศต่างๆ มาเจรจาจับคู่ธุรกิจกับผู้ประกอบการไทย โดยมีจำนวนการเจรจารวม 65 คู่ แยกเป็น Redmart.com จากสิงคโปร์ ผู้เข้าร่วมกิจกรรม 34 ราย , Amazon.com จากสหรัฐฯ 33 ราย และ Gosoko.com จากแอฟริกาใต้ 32 ราย โดยคาดว่าจะมีการซื้อขายทั้งหมด  4,572,366 บาท

โดยสินค้าที่ขายได้ในครั้งนี้ ได้แก่ ลำไยอบแห้ง มะพร้าว มะพร้าวอบกรอบ น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะพร้าวสะกัดเย็น ข้าวเหนียวทุเรียนอบกรอบ ข้าวเหนียวมะม่วงอบกรอบ มะม่วงอบแห้ง กระเทียมดำ   กล้วยอบ ขนมเพื่อสุขภาพ  ขนมอบกรอบ ข้าว ข้าวอบกรอบ เครื่องดื่ม เครื่องแกง ชาลำไย ชาออร์แกนิค  ซอสปรุงรส เป็นต้น

“กรมฯ จะยังคงเดินหน้าในการผลักดันให้ผู้ประกอบการไทย มีโอกาสในการเข้าไปค้าขายออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มชื่อดังของประเทศต่างๆ ต่อไป โดยจะมีการจัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน จะใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ที่กรมฯ มีอยู่อย่าง Thaitrade.com เป็นตัวเปิดตัวสินค้าไทยออกสู่ตลาดต่างประเทศให้ได้เพิ่มมากขึ้นด้วย”นางจันทิรากล่าว