นาวาเอก นพโรจน์ สิริปริยพงศ์ ผู้ปังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ออกคำสั่งระงับนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวกับพูชา เดินทางผ่านเข้า - ออก ณ จุดผ่านแดนถาวรฯโดยได้ทำหนังสือถึงผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี พร้อม: ประกาศเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางพื้นที่และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางพื้นที่ ตามประกาศพระบรมราชโองการ ให้เลิกใช้กฎอัยการศึกในเขตพื้นที่และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางพื้นที่ ลงวันที่ 31 มกราคม พ.ศ.2550 ตามประกาศพระบรมราชโองการ ให้เลิกใช้กฎอัยการศึกในเขตพื้นที่ตามที่ระบุไว้ในข้อ 2 แห่งประกาศเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 26 มกราคม พ.ศ.2550 และให้ใช้กฎอัยการศึกในเขตพื้นที่ลงวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2550 จังหวัดจันทบุรี เฉพาะอำเภอขลุง อำเภอโป้งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว และตามมาตรา 6 แห่ง พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ.2547 กำหนดให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร มีอำนาจ เหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน เกี่ยวกับการยุทธ์ การระงับปราบปราม หรือการรักษาความสงบเรียบร้อย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนต้องปฏิบัติดามความต้องการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร
เนื่องจากปัจจุบันมีสถานการณ์ อันเป็นภัยคุกคามจากประเทศกัมพูชา และอาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และประชาชนชาวกัมพูชา อาศัยอำนาจตามมาตรา 6แห่งพระราชบัญญัติกฏอัยการศึก พ.ศ.2547 ขอให้ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบแบบแผนของทางราชการตามที่เคยปฏิบัติมา และขอให้ด่านตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี ระงับนักท่องเที่ยว ชาวไทยเดินทางผ่านออกไปยังประเทศก้มพูชา และระงับนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชา เดินผ่านเข้ามายังประเทศไทย ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม ตำบลเทพนินิมิต อำเภอโป่งน้ำร้อน และจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ตำบลคลองใหญ่ อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดจันทบุรี เป็นการชั่วคราว (ยกเว้นแรงงานชาวกัมพูชา ที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยให้การค้าชายระหว่างประเทศเป็นไปตามปกติ) ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน พ.ศ.2568 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และพิจารณาดำเนินการต่อไป