วันที่ 11 มิถุนายน 2568 ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เขตหลักสี่ กทม.พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส.,พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผบก.ปส.1,นายกองตรี ดร. ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯประจำรองนายกรัฐมนตรี,น.พ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา, น.พ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาฯ, เภสัชกร ฉัตรชัย พานิชย์ศศภภรณ์ ผอ.กองควบคุมวัตถุเสพติด สำนักงกงานคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมแถลงการจับกุมกลุ่มบุคคคลลักลอบน้ำยาควบคุมแผนปัจจุบัน ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มของวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และประเภท 4 ออกนอกระบบและนำไปใช้ในทางที่ผิด ซึ่งเป็นยาในกลุ่มยานอนหลับ ยารักกังวล และยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท
พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า"สำหรับพฤติการณ์ กล่าวคือ กลุ่มบุคคลดังกล่าวซึ่งมีบุคคลากรทางการแพทย์ ที่สามารถสั่งซื้อยาแผนปัจจุบันดังกล่าวจาก อย. ได้ทำการสั่งซื้อในนามของคลินิกทางการแพทย์ต่างๆ จำนวน 11 คลินิก จากนั้นนำยาแผนปัจจุบันดันดังกล่าวเก็บรวบรวมซุกซ่อนไว้ในเคหสถานส่วนตัว เพื่อรอน้ำออกไปจำหน่ายในกับลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นที่นำไปใช้ในทางที่ผิด โดยมีการทำงานกันเป็นขบวนการ ทั้งทีมสั่งซื้อยา ทีมเก็บรักษาซุกซ่อน และทีมที่คอยจัดจำหน่ายในกับกลุ่มลูกค้า และจากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนจากการนำยาควบคุมแผนปัจจุบัน ออกไปจำหน่ายนอกระบบกว่า 100 ล้านบาท บช.ปส.จึงได้ทำการสืบสวนพฤติการณ์การณ์กลุ่มดังกล่าว เรื่อยมา จนสามารถจับกุมกลุ่มผู้ค้ารายย่อยที่นำยาควบคุม ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเกท 2 ออกไปจำหน่ายนอกระบบ และได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานขอออนุมัติหมายจับกลุ่มขบวนการที่เกี่ยวข้องอีก จำนวน 5 ราย ต่อศาลอาญา ในข้อหา"ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (ฟลูไนตราซีแทม หรือ Flunitrazepamา) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน., สมคบโดยการตกลงตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้สมคบกันแล้ว"
ผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้รวม 7 รายจับกุมตามหมายจับ จำนวน 5 ราย ประกอบด้วย1.พ.ต.อ.พญ.อัญชุลี ,2.นายดุริยลักษ์ ,3.น.ส.ณัฐพัชร์ ,4.นายปกรณ์ 5.นายอรชุน 6.น.ส.พัชรา และ7.น.ส.พชรมน พร้อมของกลาง วัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2. 1.Alprazolam tablet 57,000 เม็ด 2.Zolpidem tartrate tablet 16,100 เม็ด 3.Flunitrazepam tablet 24,300 เม็ด
ยึดของกลาง วัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4. 1.Clonazepam tablet 63,000 เม็ด 2.Clorazapate tablet 10,000 เม็ด
รวมของกลาง วัตถุออกฤทธิ์ จำนวน 170,400 เม็ดและสามารถยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด ไว้เพื่อตรวจสอบ รวมกว่า 400 ล้านบาท
พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส. กล่าวว่า ทางตำรวจ ปส. ได้รับการสานงานและได้รับการร้องทุกข์จาก อย. เกี่ยวกับพฤติกรรมการทำความผิดในกลุ่มนี้ คือตั้งแต่ได้รับการประสานเมื่อเดือน ก.ย. 67 ก็ได้รวบรวมหลักฐานมาโดยตลอด รวมไปถึงการดำเนินการตรวจสอบทางการเงินของกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่ง
พฤติการณ์จะเห็นตั้งแต่การสั่งซื้อให้นายทุนไปจำหน่าย แล้วนำไปขายให้ผู้ค้ารายย่อย เราได้ดำเนินการสอบสวนจนเห็นการกระทำความผิดตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ มีพยานหลักฐานที่ได้จากคดีนี้ชัดเจนจนสามารถขออำนาจศาลอนุมัติหมายจับ
ในกรณีที่มี 1 ในผู้ต้องหาขบวนการนี้เป็นข้าราชการตำรวจ ทาง ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำว่า หากมีข้าราชการตำรวจเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดให้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด ขอให้มั่นใจว่า ไม่ว่าผู้ต้องหาจะเป็นใคร เราจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
นายกองตรี ดร. ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีฯประจำรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เนื่องจากนโยบายของท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน ได้ตั้งคณะทำงานตรวจสอบเรื่องของสารควบคุมต่างๆ ที่เป็นวัตถุออกฤทธิ์ ซึ่งสำนักงาน อย. ได้แจ้งข่าวให้ทราบว่า มีการการซื้อวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 ไม่ว่าเป็น อัลปราโซแลม ซึ่งเป็นยาที่ทำให้คลายเครียด หรือใช้ในเรื่องการรักษายาซึมเศร้าในปี 2565 มีประมาณ 5 คลินิก สั่งซื้อตัวยาดังกล่าวเข้ามาหลายประเภท ยอดสั่งซื้อประมาณ 1 ล้านเศษ ในปี 2566 มีจำนวนคลินิกเพิ่มเป็น 7 คลินิก ยอดสั่งซื้อเป็น 4 ล้านเศษ ในปี 2567 เพิ่มเป็น 11 คลินิก ยอดสั่งซื้อประมาณ 7-8 ล้าน ในปี 68 มีการขยายตัวเพิ่มเป็น 12 คลินิก เป็นการตั้งข้อสังเกตของ อย. ว่ามีการเกี่ยวข้องกับคุณหมอที่รักษาผู้ป่วยเกี่ยวกับจิตเวช จึงมีการขออนุญาตซื้อยาดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามระเบียบราชการ แต่พบความผิดปกติคือมีการสั่งซื้อยาจำนวนเพิ่มมากขึ้นกว่า รพ. จึงมีการเตรียมขยายผลว่าเกิดอะไรขึ้น โดยทาง อย. จะได้รับการรายงานจากคลินิกกลับมาว่า ทางคลินิกได้ขายยาให้ใคร ซึ่งการรายงานมีบัญชีรายชื่อของผู้ป่วยแฝงไปด้วยคนเสียชีวิตไปแล้วมาสวมชื่อในการซื้อยา พบว่า 12 คลินิก มีการซื้อยาแตกต่างกันไปแล้วนำยามาอนุมัติการสั่งซื้อมาที่ อย. ซึ่ง อย.จะส่งทางไปรษณีย์ และพบว่า คนที่ชำระเงินเป็นหมอแอร์เป็นคนชำระเงินเพียงผู้เดียว หลังจากนี้จะเป็นเรื่องการนำไปส่งคลินิก โดยจะรวบรวมให้ไรเดอร์ไปรับยาตามจุดต่างๆ เช่น แฟลตตำรวจ (ที่พักเก็บยา) ซึ่งนี่คือพฤติการณ์ของคุณหมอดังกล่าว หลังจากนี้ทาง อย. จะร่วมกับ ตำรวจ ปส. จะทำการตรวจคลินิกดังกล่าวเพื่อขยายผลในเรื่องนี้ต่อไป.