"สุริยะ" ยันเดินหน้านโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ทุกสายทุกสีตามเป้าหมาย เผยอยู่ระหว่างเร่งจัดทำเคลียริ่งเฮาส์ ระบบจัดเก็บข้อมูลและคำนวณการชดเชยรายได้เอกชน เตรียมเปิดลงทะเบียนประชาชนรับสิทธิ์ผ่านแอปฯ "ทางรัฐ" ภายในเดือน ส.ค.นี้

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า แม้ขณะนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาล แต่ยืนยันว่าในส่วนของกระทรวงคมนาคมไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนโยกย้ายรัฐมนตรี รวมทั้งตนยังคงเดินหน้านโยบายรถไฟฟ้า 20 บาททุกสีทุกสาย ต้องเกิดขึ้นตามเป้าหมายใน 30 ก.ย.นี้ ซึ่งเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลมุ่งเน้นเพื่อลดค่าครองชีพของประชาชน

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันกระทรวงฯ อยู่ระหว่างเร่งประสานสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.) หรือ Digital Government Development Agency (Public Organization) (DGA) เพื่อพัฒนาระบบศูนย์บริหารจัดการรายได้กลาง (Central Clearing House : CCH) ซึ่งจะเป็นระบบจัดเก็บข้อมูลการเดินทางของผู้โดยสาร และรายได้ที่เกิดขึ้นจริงจากการเดินทางในระบบรถไฟฟ้าทุกสีทุกสาย และนำมาสู่การคำนวณส่วนต่างของรายได้เพื่อชดเชยให้กับเอกชน

“ตอนนี้กระทรวงฯ กำลังเร่งทำระบบ Clearing House ซึ่งเรื่องนี้จะต้องดำเนินการเร่งด่วน เพราะมีเป้าหมายประชาชนต้องได้ใช้รถไฟฟ้า 20 บาททุกสีทุกสายตามเป้าหมายที่รัฐบาลประกาศไว้ และเพื่อให้ทันต่อการเปิดลงทะเบียนผ่านแอปฯ ทางรัฐ ที่จะเกิดขึ้นในเดือน ส.ค.นี้”

นายสุริยะ กล่าวด้วยว่า การกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาททุกสีทุกสาย ประชาชนที่จะรับสิทธิอัตราค่าโดยสารนี้จะต้องลงทะเบียน และใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิต ที่มีสัญลักษณ์ EMV Contactless และบัตรโดยสาร (Rabbit Card ที่ลงทะเบียน) หลังจากนั้นระบบ Clearing House จะรวบรวมข้อมูลการเดินทางและชดเชยรายได้ให้กับผู้ประกอบการรถไฟฟ้า ดังนั้นยืนยันว่าผู้ประกอบการจะไม่ได้รับผลกระทบรายได้

ด้านนายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง กล่าวว่า ตามที่ได้รับมอบหมายจาก นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้เร่งดำเนินการนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เพื่อต้องการลดค่าครองชีพของประชาชน และส่งเสริมการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะอย่างเต็มรูปแบบ ขณะนี้ความคืบหน้านโยบายใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว โดยปัจจุบันนี้สายสีม่วง และสีแดงเริ่มใช้สิทธิ์ 20 บาท ส่วนสายอื่นจะใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย.นี้ หรือตามมติ ครม.อนุมัติ

สำหรับเงื่อนไขในการเข้าร่วมโครงการ ประชาชนผู้ที่ต้องการใช้บริการต้องลงทะเบียน ผ่านแอป “ทางรัฐ” ซึ่งจะเปิดให้ลงทะเบียนภายในเดือน ส.ค.นี้ โดยเป็นการลงทะเบียนเพื่อยืนยันตัวบุคคลที่มีสัญชาติไทย ระบุเลขที่บัตรประชาชน 13 หลัก ลงทะเบียนบัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรโดยสาร (Rabbit Card ที่ลงทะเบียน) ที่จะใช้งานกับระบบรถไฟฟ้าผ่านแอปทางรัฐ

ทั้งนี้ บัตรที่ได้รับการยืนยันการลงทะเบียนจะได้สิทธิโดยอัตโนมัติ เมื่อใช้งานหลังจากเริ่มโครงการ จะได้รับสิทธิ์เดินทางในอัตรา 20 บาทตลอดสาย ครอบคลุมทั้งโครงข่ายรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ประกอบไปด้วย รถไฟฟ้าสายสีเขียว,สีทอง,สีเหลือง,สีชมพู,สีน้ำเงิน,สายสีม่วง,สายสีแดง และ สายแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ (ARL)

อย่างไรก็ดี ขอย้ำว่าประชาชนผู้ใช้บริการ นอกจากลงทะเบียนยืนยันตัวบุคคลแล้ว จำเป็นต้องผูกบัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรโดยสาร หากระบุไม่ครบตามเงื่อนไขจะไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้ และไม่จำกัดจำนวนสิทธิ์บุคคลที่ลงทะเบียน

สำหรับแอปฯ ทางรัฐ ประชาชนสามารถโหลดได้ทั้ง iOS และ Android ส่วนประชาชนที่ลงทะเบียนหลังเดือน ก.ย. 2568 ยังสามารถใช้สิทธิ์ได้ แต่หากไม่ได้ลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐ หรือไม่ได้ใช้งานบัตรตามที่ลงทะเบียนไว้ จะต้องจ่ายค่าโดยสารตามอัตราปกติ แต่กระทรวงฯ ได้มีนโยบายเร่งผลักดันให้รถไฟฟ้าทุกเส้นทาง อนาคตจะต้องเปิดระบบสแกน QR Code ในมือถือแทนการใช้บัตร เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนทุกภาคส่วน

นายพิเชฐ กล่าวต่อว่า การชดเชยส่วนต่างค่าโดยสารให้กับผู้ประกอบการนั้น รัฐจะใช้เงินสนับสนุนจากกองทุนตั๋วร่วมหรือแหล่งเงินอื่นตามมติ ครม. ในการชดเชย จึงไม่เป็นผลกระทบต่อสัญญาสัมปทานที่มีกับภาคเอกชน ทั้งนี้ กรมฯ พร้อมรับนโยบาย และเร่งดำเนินการผลักดันค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ให้สามารถใช้ได้อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และสนับสนุนให้ประชาชนใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น ดังนั้น ขอให้ประชาชนเตรียมบัตรประชาชน, บัตรโดยสาร และดาวน์โหลดแอปทางรัฐให้พร้อมลงทะเบียนรับสิทธิ์ และใช้สิทธิ์พร้อมกันในวันที่กำหนด