น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้รับรายงานสถานการณ์และแนวโน้มตลาดสินค้าอาหารสดออนไลน์ในจีน จากสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงปักกิ่ง ว่าปัจจุบันผู้บริโภคชาวจีนได้นิยมสั่งซื้อสินค้าอาหารสดผ่านช่องทางออนไลน์กันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในปี 2560 ที่ผ่านมา สินค้าอาหารสดที่ผู้บริโภคนิยมซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ 5 อันดับแรก ได้แก่ ผลไม้ สัดส่วน 32% ผลิตภัณฑ์นม 24.2% ผักสด 12.8% เนื้อสัตว์และไข่9.3% และสัตว์น้ำ 9% และหากแยกเฉพาะแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของจีน JD.com พบว่า อาหารสดที่มียอดขายมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ผลไม้ สัตว์น้ำและอาหารทะเล และอาหารแช่แข็ง

          ทั้งนี้ รูปแบบการค้าออนไลน์อาหารสดในจีน เดิมจะมีการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ไม่กี่ราย โดยมี Yiguo.com เป็นแพลตฟอร์มอาหารสดออนไลน์แห่งแรกของจีน แต่ในปี 2559-60 ผู้ประกอบการรายใหญ่ อย่างอาลีบาบา และ JD.com ได้รุกเข้าทำตลาดอาหารสดออนไลน์ มีการลงทุนทั้งห้องเย็นและระบบโลจิสติกส์ให้ตลาดอาหารสดออนไลน์มีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น

          ขณะเดียวกัน รูปแบบการค้าออนไลน์อาหารสด ยังมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบมีการผสมผสานการค้าออนไลน์กับออฟไลน์ รวมทั้งร่วมมือกับซุปเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อนำสินค้าไปฝากขาย การสร้างจุดส่งสินค้าของผู้ประกอบการในชุมชน และการบูรณาการแพลตฟอร์มเข้ากับซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านสะดวกซื้อในชุมชน เพื่อให้จัดส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญ ยังมีการเปิดรูปแบบใหม่ คือ ซุปเปอร์มาร์เก็ตบวกร้านอาหารและเครื่องดื่ม มีลักษณะเป็น Experience store ที่เปิดให้ลูกค้าเข้ามาทดลองซื้อสินค้าและใช้บริการ และหากชอบใจก็สามารถมารับประทานได้ที่ร้านหรือจะสั่งซื้อออนไลน์ก็ได้         

          น.ส.บรรจงจิตต์กล่าวว่า การที่ตลาดอาหารสดออนไลน์ในจีนขยายตัว จึงเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยที่จะผลักดันการส่งออกผลไม้และสินค้าอาหารสดอื่นๆ เข้าสู่ตลาดจีน ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ได้มีการช่วยเหลือและผลักดันอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผลไม้ โดยมีทุเรียน  เป็นสินค้านำร่อง ซึ่งประสบความสำเร็จสามารถผลักดันเข้าสู่ตลาดจีนได้แล้ว โดยร่วมมือกับ Tmall.com ในเครืออาลีบาบา และกำลังอยู่ระหว่างการผลักดันผลไม้ชนิดอื่นๆ ให้เข้าสู่ตลาดจีนเพิ่มขึ้น ส่วนอาหารสดและแปรรูป ก็มีการผลักดันเข้าสู่ตลาดจีนผ่านช่องทางการค้าออนไลน์เช่นเดียวกัน

          อย่างไรก็ตาม กระทรวงฯ มีข้อแนะนำถึงผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซของไทย ให้ศึกษาและเรียนรู้การทำธุรกิจของผู้ประกอบการในจีน ซึ่งได้มีการปรับรูปแบบการค้าออนไลน์ ที่ไม่ใช่แค่การค้าออนไลน์เพียงอย่างเดียว แต่ได้มีการนำการค้าออนไลน์มาผสมผสานกับการค้าแบบออฟไลน์ เพื่อสร้างโอกาสในการขายสินค้า     ซึ่งหากนำมาปรับใช้ ก็จะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับการค้าออนไลน์ของไทยได้