ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เกษตรนำไทย ย้อนกลับ
พิษณุโลก/สหกรณ์การเกษตรพัฒนาศักยภาพการผลิตยางก้อนถ้วยเกรดพรีเมี่ยมสู่ตลาดอย่างยั่งยืนราคาดีเกษตรกรยิ้มได้
01 ก.ค. 2568

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่สหกรณ์การเกษตรนครไทย จำกัด เลขที่ 169 หมู่ที่ 4ต.นครไทย อ.นครไทย จ.พิษณุโลก นายนิสิต สวัสดิเทพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ประธานพิธีเปิดโครงการ “พัฒนาศักยภาพการผลิตยางก้อนถ้วยเกรดพรีเมี่ยมสู่ตลาดอย่างยั่งยืน โดยมี นายปิยะ เลาหสินนุรักษ์ ผู้อำนวยการการยางแห่งประเทศไทยจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการอำเภอนครไทย และ เกษตรกรชาวสวนยาง ให้ท่านต้อนรับ

นายปิยะ เลาหสินนุรักษ์ ผู้อำนวยการการยางแห่งประเทศไทยจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย มีบทบาทสำคัญต่อการสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางพารา เกิดการจ้างงานในภาคเกษตรกรรม และเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันเกษตรกรในเขตภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีพื้นที่การปลูกยางพารา จำนวน 1,412,355 ไร่ และมีแนวโน้มการขยายพื้นที่การปลูกยางพาราเพิ่มมากขึ้น 
 จังหวัดพิษณุโลก มีพื้นที่การปลูกยางพารา จำนวน 148,295 ไร่     มากที่สุดในเขตภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่แปรรูปยางดิบผลิตเป็นยางพาราก้อนถ้วย เนื่องจากต้นทุน การผลิตต่ำ ประหยัดเวลา และใช้แรงงานน้อย 
 สำหรับการจัดโครงการ “พัฒนาศักยภาพการผลิตยางก้อนถ้วย    เกรดพรีเมี่ยมสู่ตลาดอย่างยั่งยืน” มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและพัฒนาให้เกษตรกรได้มีความรู้ ความเข้าใจในการผลิตยางพาราก้อนถ้วยโดยใช้กรดฟอร์มิก เกรดพรีเมี่ยมที่มีความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตยางพาราก้อนถ้วยที่มีคุณภาพ ตรงความต้องการ และจำหน่ายได้ในราคาสูงกว่าท้องตลาด 

นายวรศักดิ์ บุญพยุง ที่ปรึกษาสหกรณ์กองทุนสวนยางในเขตปฏิรูปที่ดินชากังราว กล่าวว่า เกษตรกรได้ประโยชน์ได้มูลค่าสูงขึ้นจากการผลิตยางก้อนถ้วยธรรมดา เป็นยางก้อนถ้วยเกรดพรีเมี่ยม คือทำยางให้มีคุณภาพดีเพื่อป้อนโรงงานที่จะผลิตยางแดนเนียล มิชลิน บริดจสโตน หรือล้อเครื่องบิน นี่คือเป้าหมายของสหกรณ์ ยางเกรดพรีเมี่ยมจะยกมาตรฐานยางก้อนถ้วย ให้มีมูลค่าสูงขึ้น และสามารถชะลอการขายยางของการยางแห่งประเทศไทย ที่สามารถให้เกษตรกรได้ประโยชน์ก็คือ เก็บยางในช่วงราคาถูก ไปขายในช่วงราคาแพง ปัจจุบันมีกลุ่มเป้าหมายตามโครงการฯ ที่เข้าร่วมจำนวน 10 แห่ง รวม 140 คน ประกอบด้วย สหกรณ์การเกษตรนครไทย จำกัด จังหวัดพิษณุโลก สหกรณ์กองทุนสวนยางในเขตปฏิรูปที่ดินชากังราว จังหวัดกำแพงเพชร กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง กยท.บ้านหนองหิน จังหวัดพิษณุโลก กลุ่ม สกย.ชมพูพัฒนา55 จังหวัดพิษณุโลก กลุ่มยางพารานาตอน จังหวัดพิษณุโลก กลุ่มยางพาราชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก กลุ่มยางพาราปาคะยาง จังหวัดสุโขทัย กลุ่มเกษตรกรทำสวนยางพาราตำบลวังกวาง จังหวัดเพชรบูรณ์ กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง กยท.ตลาดยางบ้านแคทอง จังหวัดสุโขทัย กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางคีรีมาสรวมใจ จังหวัดสุโขทัย และมีสหกรณ์การเกษตรในเขตภาคเหนือตอนบน ได้เข้าร่วมสังเกตการณ์จากจังหวัดน่าน จังหวัดเชียงราย เพื่อเตรียมสร้างการตลาดและการผลิต

นางสาวสุพรรษา เลิศสัมพันธ์สุข หัวหน้ากลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ปัจจุบันการรับซื้อยางพาราอยู่ที่กิโลกรัมละ 25 - 30 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรรับได้ แต่เกษตรกรนำยางพารามาจำหน่ายในปริมาณไม่มากเนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูฝน ผลผลิตยางพาราจะเริ่มออกสู่ตลาดช่วงเดือน สิงหาคม เป็นต้นไป และจะมีมากสุดในช่วงเดือน ตุลาคม - ธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาวและเป็นช่วงที่ยางพารามีคุณภาพ 

พิษณุโลก/ศริตวรรธน์ อัครชินพรรณ/0931311867

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 1 - 15 กรกฎาคม 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
02 ก.ค. 2568
ในปีนี้ถือเป็นมีมงคลอีก 1 ปี โดยเฉพาะการเปิดความสัมพันธ์ไทย-จีน ที่เวียนมาครบรอบ 50 ปี ซึ่งแน่นนอ จีนถือเป็นมหาอำนาจหนึ่งของโลกที่ปัจจุบันมีความเจริญรุดหน้าไปอย่างรอบด้าน นั่นเพราะหนึ่ง จีน มีประชากร 1.4 พันล้านคน ที่เป็นตลาดใหญ่ของโลก ที่สำคัญความเจริญรุดหน้า...