การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา โดยยกเว้นการเก็บค่าน้ำประปาและค่าบริการทั่วไปเป็นระยะเวลา 2 เดือน สำหรับบ้านอยู่อาศัยในพื้นที่ที่ราชการประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน รวมถึงศูนย์อพยพและศูนย์พักพิง เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายและสนับสนุนน้ำประปาสะอาดสำหรับอุปโภคบริโภคในช่วงสถานการณ์วิกฤต

นายจักรพงศ์ คำจันทร์ ผู้ว่าการการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความ
ไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา กปภ. ให้ความสำคัญสูงสุดต่อความเป็นอยู่ของประชาชน จึงได้ดำเนินมาตรการยกเว้นเก็บค่าน้ำประปาและค่าบริการทั่วไปเป็นระยะเวลา 2 เดือน ในรอบการใช้น้ำเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2568 สำหรับบ้านอยู่อาศัยที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ที่ราชการประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน รวมถึงศูนย์อพยพและศูนย์พักพิง ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้น้ำในพื้นที่ประสบภัยรวมจำนวน 29,788 ราย ในพื้นที่ให้บริการของ กปภ.สาขาเดชอุดม ละหานทราย กันทรลักษณ์ และสังขะ ตลอดจนศูนย์อพยพและศูนย์พักพิงที่ใช้น้ำจากมิเตอร์ของ กปภ. รวมจำนวน 93 แห่ง จำนวนมิเตอร์น้ำ 141 เครื่อง ในพื้นที่ให้บริการของ กปภ.สาขาบุรีรัมย์ ลำปลายมาศ นางรอง สุรินทร์ ศีขรภูมิ รัตนบุรี สังขะ ศรีสะเกษ และเดชอุดม คิดเป็นเงินช่วยเหลือค่าน้ำประปา ประมาณ 25 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมั่นคงในช่วงวิกฤต นอกจากนี้ ยังส่งมอบน้ำสะอาดสำหรับการอุปโภคบริโภคให้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบัน กปภ. สนับสนุนน้ำดื่มสะอาดช่วยเหลือประชาชนแล้วกว่า 4.2 ล้านลิตร

ผู้ว่าการ กปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า กปภ. พร้อมอยู่เคียงข้างประชาชนในทุกสถานการณ์ และจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมอย่างทันท่วงที โดยประสานงาน
กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือมีประสิทธิภาพสูงสุด สอดคล้องกับสุขอนามัยและความปลอดภัยของประชาชน ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือด้านน้ำประปาหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กปภ.สาขาในพื้นที่ หรือ PWA Contact Center 1662 ตลอด 24 ชั่วโมง
--------------
กองสื่อสารองค์กร
การประปาส่วนภูมิภาค
0 2551 8101-2