เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2568 ณ โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ รัชดาฯ ได้มีการจัดบรรยายพิเศษในหัวข้อ “ธุรกิจการค้ากับพฤติกรรมผู้ซื้อออนไลน์” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรผู้บริหารรุ่นใหม่ธุรกิจไทย–จีน รุ่นที่ 2 (Young 2) โดยหลักสูตรนี้จัดขึ้นโดยความร่วมมือของสถาบันสื่อและบริหารธุรกิจไทย–จีน สมาคมผู้สื่อข่าวไทย–จีน และหอการค้าไทย–จีน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย และ China Media Group เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ไทย–จีนอย่างยั่งยืน   โดย อาจารย์ ดร. ภากร กัทชลี (อ.ปอ) เจ้าของเพจ “อ้ายจง” และ อาจารย์ภาควิชาการตลาด จาก คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาเป็นวิทยากร ถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ทั้งด้านภาพรวมเศรษฐกิจจีน รวมถึงเจาะลึกพฤติกรรมผู้บริโภคออนไลน์ที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าสนใจ  

อาจารย์ ดร. ภากร ได้อธิบายว่าเศรษฐกิจจีนปัจจุบันขับเคลื่อนด้วยผู้เล่นหลัก 3 กลุ่ม คือ รัฐวิสาหกิจ (State-Owned Enterprise - SOE) วิสาหกิจแบบผสม และวิสาหกิจเอกชน โดยรัฐบาลยังคงมีบทบาทนำในการกำหนดทิศทาง รวมถึงการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจแบบผสมที่เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเครื่องจักรและก่อสร้าง ขณะเดียวกัน ภาคอีคอมเมิร์ซของจีนยังคงเติบโต แม้สัดส่วนต่อยอดค้าปลีกจะลดลงเล็กน้อยในปี 2025 แต่รัฐบาลยังสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กให้ขยายตลาดไปต่างประเทศ พร้อมดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติเข้ามาในประเทศ

ในแวดวงอีคอมเมิร์ซ “ไลฟ์สตรีมมิง” ยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยผู้บริโภคไม่เพียงติดตามอินฟลูเอนเซอร์รายใหญ่เหมือนในอดีต แต่หันมาให้ความสนใจกับ KOC (Key Opinion Consumer) และบล็อกเกอร์ท้องถิ่นที่มีความเป็นธรรมชาติและใกล้ชิดมากกว่า กลุ่มผู้ซื้อหลักมีทั้งชายและหญิงในสัดส่วนใกล้เคียงกัน โดยส่วนใหญ่เป็นวัยทำงานอายุ 27–39 ปี และมีรายได้ต่อเดือนมากกว่า 5,000 หยวน

นอกจากนี้ยังมีการวิเคราะห์ถึงพฤติกรรมผู้บริโภคจีนที่เปลี่ยนแปลงจากเดิม โดย Customer Journey ไม่ได้เป็นเส้นตรงอีกต่อไป แต่กลายเป็นวงจรแบบอินฟินิตลูป เริ่มจากการค้นพบ พิจารณา ซื้อ รีวิว และต่อยอดสู่การมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้อื่น ปัจจุบันผู้บริโภคชาวจีนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น เน้นสินค้าที่คุ้มค่าและจำเป็น แต่ก็ยังพร้อมจ่ายเพื่อซื้อประสบการณ์ เช่น การท่องเที่ยวและการดูแลสุขภาพ รัฐบาลจีนเองยังคงกระตุ้นการบริโภคผ่านซอฟต์พาวเวอร์ต่าง ๆ เช่น การสร้างคาแรคเตอร์เฉพาะในสถานที่ท่องเที่ยว กระแส China Chic และฟุตบอลหมู่บ้าน

สำหรับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทย ส่วนใหญ่จะมาจากเมืองใหญ่ที่มีเที่ยวบินตรงมายังประเทศไทย โดยให้ความสนใจกับ Unseen Thailand รวมถึงบริการบันเทิงและสุขภาพของไทย อาทิ ซีรีส์วาย และโรงพยาบาลเอกชน ขณะเดียวกันตลาดโซเชียลคอมเมิร์ซในจีนยังแข่งขันสูง โดยมีผู้เล่นหลักอย่าง Douyin ที่ครองตลาดด้านโซเชียลคอมเมิร์ซ Pinduoduo ที่เน้นสินค้าราคาถูก และ JD.com ที่โดดเด่นด้านโลจิสติกส์

จีนยังไม่เพียงส่งออกเทคโนโลยีระดับรัฐ แต่ยังขยายการค้าออนไลน์เข้าสู่ไทยโดยตรง ผ่านกลยุทธ์ Direct-to-Consumer (D2C) บนแพลตฟอร์มอย่าง Shopee และ Lazada ทำให้ธุรกิจจีนเข้าถึงผู้บริโภคไทยได้สะดวกขึ้น ซึ่งส่งผลต่อโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและพฤติกรรมการบริโภคของคนไทยโดยตรง พร้อมกันนี้ยังมีการกล่าวถึงนโยบาย AI Governance ที่จำเป็นต่อการบริหารจัดการและกำกับการใช้ AI ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยต้องคำนึงถึงทั้งโอกาสทางเศรษฐกิจและความเสี่ยงทางสังคม

การบรรยายครั้งนี้ได้สะท้อนให้เห็นภาพรวมเศรษฐกิจและพฤติกรรมผู้บริโภคของจีนอย่างครอบคลุม ถือเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการขยายตลาดหรือทำธุรกิจในจีน เพื่อให้สามารถปรับกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพในยุคดิจิทัล