บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เดินหน้าพัฒนาบริการขนส่งระหว่างประเทศ รองรับความต้องการของผู้ค้าออนไลน์และธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยที่ต้องการขยายตลาดไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ล่าสุดเปิดตัวบริการ “ePacket” ที่สามารถส่งพัสดุน้ำหนักสูงสุดถึง 5 กิโลกรัม จากเดิมเพียง 2 กิโลกรัม พร้อมเพิ่มความคุ้มค่าด้วยราคาคงเดิมที่ รวมค่าภาษีขาเข้าแล้ว เพื่อช่วยผู้ส่งบริหารต้นทุนได้ง่ายขึ้น โดยเริ่มให้บริการแล้วตั้งแต่วันนี้
ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า การเปิดตัว ePacketถือเป็นการยกระดับบริการเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะกลุ่ม SME และร้านค้าออนไลน์ ให้เข้าถึงตลาดสหรัฐฯ ได้สะดวกขึ้น
เราต้องการช่วยผู้ประกอบการลดข้อจำกัดเรื่องน้ำหนัก ค่าขนส่ง และภาษีขาเข้า ซึ่งเป็นอุปสรรคหลักของการค้าระหว่างประเทศ พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้ทั้งผู้ส่งและผู้รับในทุกขั้นตอน
สำหรับบริการ ePacket รูปแบบใหม่ ที่ส่งไปยังสหรัฐฯ นอกจากจะรองรับน้ำหนักได้มากขึ้นแล้ว ยังคิดค่าขนส่งแบบ Delivered Duty Paid (DDP) ซึ่งได้รวมค่าศุลกากรและภาษีอากรเรียบร้อยแล้ว ทำให้สินค้าสามารถส่งถึงปลายทางโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ราคาเริ่มต้นเพียง 339 บาท สำหรับน้ำหนัก 100 กรัม เหมาะกับสินค้าที่มีมูลค่าไม่เกิน 60 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1,900 บาทต่อกล่อง ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา
ผู้ส่งสามารถจัดทำจ่าหน้าผ่านระบบ DPOST Inter และติดตามสถานะจัดส่งแบบเรียลไทม์ผ่าน Track & Trace ได้ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง อีกทั้งยังได้รับความคุ้มครองกรณีสูญหายหรือเสียหายสูงสุด 500 บาทต่อชิ้น พร้อมทางเลือกซื้อประกันเพิ่มเติม “ePacket Plus” เพียง 30 บาทต่อกล่อง เพื่อเพิ่มความคุ้มครองสูงสุดถึง 2,000 บาท
ทั้งนี้ สำหรับสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อกล่อง ไปรษณีย์ไทยยังมีบริการ Courier Post สำหรับการส่งด่วนพรีเมียมทั่วโลก รองรับน้ำหนักสูงสุดถึง 200 กิโลกรัม หรือใช้บริการ Courier Post One Price ส่งได้สูงสุด 25 กิโลกรัม
นอกจากนี้ ยังมีบริการ EMS World สำหรับจดหมายและของตีพิมพ์น้ำหนักไม่เกิน 500 กรัม รวมถึงบริการ Amazon FBA ส่งตรงไปยังศูนย์กระจายสินค้าของ Amazon ในสหรัฐฯ ได้เช่นเดิม