เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2568 เวลาประมาณ 11.00 นาฬิกา น.ส.ศศิธร  กิตติธรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.4) ได้ประชุมรับฟังข้อเสนอการสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพรจากทีมนักศึกษาสถาบันนักศึกษาสถาบันพระปกเกล้า หลักสูตรการบริหารงานภาครัฐและกฎหมายมหาชน (ปรม.) รุ่นที่ 24 

สืบเนื่องจากนักศึกษาสถาบันพระปกเกล้า กลุ่มมะเส็ง ปรม.24 ได้จัดทำโครงการตามหลักสูตร โดยได้รับหัวข้อการปฏิรูประบบสุขภาพเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งทางคณะนักศึกษาเห็นว่า การลดความเหลือมล้ำเกี่ยวกับเข้าถึงระบบสุขภาพของประชาชน ต้องทำให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงยาและเวชภัณฑ์ต่างๆ ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ซึ่งทางเลือกผลิตภัณฑ์สมุนไพรน่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เข้าถึงยาสำหรับการรักษาโรคต่างๆ ได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายมาก เพราะสามารถปลูกเองได้ และยังสามารถผลิตเพื่อจำหน่ายสร้างรายได้ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่งด้วย

ทางคณะนักศึกษาจึงได้ร่วมกับ อบต.หนองหัวโพ อ.หนองแซง จังหวัดสระบุรี นายอำเภอหนองแซง สาธารณสุขจังหวัด พาณิชย์จังหวัด ท้องถิ่นจังหวัด และพัฒนาชุมชนจังหวัด เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาสเปรย์สมุนไพรกระดูกไก่ดำ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ครอบคลุมการปลูก การแปรรูป และการตลาด

นอกจากนี้ ยังได้นำเสนอโมเดลการมีส่วนร่วมของภาครัฐและปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ทันสมัย และทำการถอดบทเรียนจากโครงการดังกล่าว คณะนักศึกษาเห็นว่าการทำผลิตภัณฑ์สมุนไพรให้ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับ และสามารถจัดจำหน่ายได้ อาจมีหน่วยงานรัฐหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องให้ความรู้หรือต้องให้การรับรอง การอนุมัติ หรืออนุญาตต่างๆ ดังนั้น เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน และเป็นการสนับสนุนการทำผลิตภัณฑ์สมุนไพรต่างๆ ของวิสาหกิจชุมชนในอนาคต

ทางคณะนักศึกษาจึงมีข้อเสนอการจัดตั้ง ศูนย์บริการบูรณาการสมุนไพรสำหรับวิสาหกิจชุมชน เพื่อให้บริการครบวงจร “One Stop Service” เช่น ให้คำปรึกษาด้านการปลูก การเก็บเกี่ยว และการแปรรูปสมุนไพร ช่วยวิสาหกิจชุมชนขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สมุนไพร หรือส่งเสริมการตลาดและสร้างเครือข่ายระหว่างหน่วยงานรัฐและชุมชน 

นางสาวศศิธร กิตติธรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวชื่นชมและขอบคุณคณะนักศึกษาสถาบันพระปกเกล้า ที่จัดทำโครงการดีๆ ให้แก่ชุมชน และจะพยายามจะหาโอกาสไปเยี่ยมชมโครงการนี้ที่ อ.หนองแซง ทั้งนี้ ได้กล่าวว่า หนึ่งในภารกิจสำคัญที่กรมการพัฒนาชุมชน เป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อน คือโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่นในชุมชน พัฒนาและยกระดับมาตรฐานสินค้า OTOP สร้างช่องทางการตลาดและประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์

รวมถึงส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากและความเข้มแข็งของชุมชน โดยกรมการพัฒนาชุมชนของเรามีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในระดับพื้นที่ทั้งระดับอำเภอ จังหวัด หากมีผู้สนใจอยากขอข้อมูลรายละเอียดในเรื่องการส่งเสริม พัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงการเข้าร่วมขึ้นทะเบียนเพื่อเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP ก็สามารถเข้าปรึกษาได้ที่สำนักงานพัฒนาชุมชนทั้งระดับอำเภอ และจังหวัดได้ทั่วประเทศ