CIBA DPU ปลุกศักยภาพนักธุรกิจรุ่นใหม่ จัดอบรม “Unlock Global Trade”

เสริมความเข้าใจกฎหมาย–ภาษีศุลกากร ยกระดับผู้เรียนสู่ธุรกิจโลก

วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี (CIBA) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) จัดโครงการอบรมเชิงวิชาการ “Unlock Global Trade: Tax and Customs Strategies – ปลดล็อกการค้าโลก กลยุทธ์ภาษีและพิธีการศุลกากร เพื่อยกระดับธุรกิจนำเข้า–ส่งออกสู่สากล” เมื่อวันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม 2568 ณ ห้องประชุมทวี บุณยเกตุ (ห้องประชุมสำนักอธิการบดี 6-1) อาคารสำนักอธิการบดี 1 โดย  อาจารย์วสุกานต์ วิศาลสวัสดิ์ คณบดีวิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชีกล่าวเปิดงาน โดยมีคณาจารย์และนักศึกษาหลักสูตรธุรกิจระหว่างประเทศเข้าร่วมอบรมอย่างคับคั่ง

ในการอบรม  นายพงษ์พัฒน์ สัตยวินิจ อุปนายกสมาคมตัวแทนออกของรับอนุญาตไทย เป็นวิทยากรบรรยายพิเศษในหัวข้อ “กฎหมายศุลกากรที่เกี่ยวกับการนำเข้าและส่งออก”พร้อมถ่ายทอดประสบการณ์ตรงจากภาคปฏิบัติ เพื่อให้นักศึกษาเข้าใจโครงสร้างกฎหมายศุลกากร การคำนวณภาษี การใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้า (FTA) รวมถึงแนวทางการปรับตัวของธุรกิจในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในระบบศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์

อาจารย์วสุกานต์ วิศาลสวัสดิ์ คณบดีวิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวถึงความสำคัญของการเรียนรู้ด้านกฎหมายศุลกากรและภาษีในยุคที่เศรษฐกิจโลกเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ว่า โลกการค้าสมัยใหม่ไม่ได้มีพรมแดนขวางกั้นอีกต่อไป ความเข้าใจด้านกฎหมายระหว่างประเทศ ภาษี และพิธีการศุลกากร จึงเป็นหัวใจสำคัญของนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ต้องการขยายโอกาสสู่ตลาดโลก การเรียนรู้เรื่องดังกล่าวตั้งแต่ในมหาวิทยาลัย คือการเตรียมพร้อมอย่างแท้จริงสำหรับโลกแห่งการเปลี่ยนแปลง พร้อมย้ำว่า CIBA DPU มุ่งมั่นพัฒนาบัณฑิตให้เป็นผู้ที่เข้าใจระบบเศรษฐกิจโลก และสามารถนำความรู้ไปใช้สร้างคุณค่าแก่สังคมอย่างยั่งยืน เพราะเชื่อว่า “ศักยภาพของคนรุ่นใหม่คือพลังสำคัญในการขับเคลื่อนอนาคตของธุรกิจและสังคมให้เติบโตไปข้างหน้า”

ด้านนายพงษ์พัฒน์ สัตยวินิจ อุปนายกสมาคมตัวแทนออกของรับอนุญาตไทย กล่าวระหว่างการบรรยายว่า กฎหมายศุลกากรไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอย่างที่หลายคนคิด หากเข้าใจระบบและมองให้เป็นกลยุทธ์ การรู้เรื่องภาษีและศุลกากรจะช่วยให้ธุรกิจลดต้นทุน เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และลดความเสี่ยงจากการดำเนินงานผิดพลาดได้ พร้อมยกตัวอย่างกรณีศึกษาจากสถานการณ์จริงของผู้ประกอบการที่สามารถนำความรู้ทางภาษีและสิทธิพิเศษทางการค้าไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในเชิงกลยุทธ์

ขณะที่ อาจารย์ปณภา ดวงดาว อาจารย์ประจำหลักสูตรธุรกิจระหว่างประเทศ ผู้ดำเนินโครงการ วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวว่า การอบรมในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ (Experiential Learning) ที่ให้นักศึกษาได้เข้าใจจากสถานการณ์จริง โดยเฉพาะในประเด็นด้านกฎหมายศุลกากรและภาษี ซึ่งเป็นองค์ความรู้สำคัญของการดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศ การได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรงจะช่วยให้นักศึกษามีมุมมองที่กว้างขึ้น เข้าใจระบบการค้าโลก และสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง

“นักศึกษาที่เข้าอบรมไม่เคยคิดมาก่อนว่ากฎหมายศุลกากรจะเกี่ยวข้องโดยตรงกับกลยุทธ์ทางธุรกิจ แต่เมื่อได้เรียนรู้จากกรณีศึกษา ก็เห็นชัดว่าการเข้าใจกฎหมายช่วยให้ควบคุมต้นทุนได้ และยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการเจรจาทางการค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้นักศึกษายังมองว่า ภาษีอาจดูเป็นเรื่องตัวเลข แต่แท้จริงแล้วเป็นเรื่องการวางแผนและมุมมองทางธุรกิจ ซึ่งการอบรมครั้งนี้ช่วยให้เข้าใจว่าธุรกิจที่ดีไม่ใช่แค่ทำกำไรได้แต่ต้องรู้จักใช้ความรู้ทางกฎหมายให้เกิดประโยชน์ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน” อาจารย์ประจำหลักสูตรธุรกิจระหว่างประเทศ ผู้ดำเนินโครงการ วิทยาลัยบริหารธุรกิจนวัตกรรมและการบัญชี DPU กล่าว 

กิจกรรมดังกล่าวนอกจากจะช่วยเพิ่มความเข้าใจด้านภาษีและศุลกากรแล้ว ยังเปิดมุมมองใหม่ให้ผู้เรียนเห็นความเชื่อมโยงระหว่าง “ความรู้ทางธุรกิจ” กับ “ความรับผิดชอบต่อระบบเศรษฐกิจโลก” เพราะในยุคที่ห่วงโซ่การค้าเชื่อมโยงกันทั่วโลก ความรู้ด้านกฎหมายและภาษีจึงเปรียบเสมือน “ภาษากลาง” ของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ที่ต้องเข้าใจทั้งกลไกทางการค้าและมิติแห่งความยั่งยืนในเวลาเดียวกัน 

อาจารย์ปณภา ทิ้งท้ายด้วยว่า การอบรม “Unlock Global Trade” เป็นเวทีแห่งการเรียนรู้และจุดเริ่มต้นของการค้นพบศักยภาพในตัวผู้เรียน สอดคล้องกับพันธกิจของ CIBA DPU ที่เชื่อมั่นว่า ‘ทุกคนสามารถเติบโตได้อย่างไร้ขีดจำกัด’ ภายใต้แนวคิด “Discover Potential Unlimited” และ “ปลุกศักยภาพ เปลี่ยนอนาคต” ที่ผลักดันให้นักศึกษาคิดจริง ทำจริง และก้าวไปสู่ความสำเร็จในโลกธุรกิจอย่างมีเป้าหมาย

สำหรับบรรยากาศภายในห้องอบรมเต็มไปด้วยความคึกคักและการมีส่วนร่วมของนักศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยผู้เข้าร่วมได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและซักถามในช่วงถาม–ตอบ ทั้งในประเด็นขั้นตอนการนำเข้าสินค้า การจัดการเอกสารศุลกากร ตลอดจนแนวโน้มของการค้าโลกยุคใหม่ที่เชื่อมโยงด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ทำให้ผู้เรียนได้เห็นภาพการดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศอย่างเป็นรูปธรรมและเข้าใจเชิงลึกมากยิ่งขึ้น