สถาบันสุทธิครุศิลป์ DPU จัดอบรมติวเข้ม เตรียมความพร้อมสอบใบประกอบวิชาชีพครู เสริมทักษะ-วิเคราะห์ข้อสอบเชิงสถานการณ์ เสริมสร้างศักยภาพครูมืออาชีพแห่งอนาคต

สถาบันสุทธิครุศิลป์ วิทยาลัยครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) จัดอบรม “เตรียมความพร้อมเพื่อการทดสอบและประเมินสมรรถะทางวิชาชีพครู (วิชาครู)”ระหว่างวันที่ 18–19 ตุลาคม 2568 ณ ห้อง 435 อาคาร 4 มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ โดยมีเป้าหมายเพื่อเตรียมความพร้อมให้นักศึกษาวิทยาลัยครุศาสตร์และศิษย์เก่าได้เข้าใจแนวทางการสอบใบประกอบวิชาชีพครู ได้ฝึกวิเคราะห์ข้อสอบเชิงสถานการณ์ เสริมทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์ และเตรียมความพร้อมให้นักศึกษาครุศาสตร์ก้าวสู่ความเป็นครูมืออาชีพ

สำหรับการอบรมตลอด 2 วัน ได้รับเกียรติจากคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิจากวิทยาลัยครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ร่วมบรรยายและฝึกปฏิบัติ โดยมีเนื้อหาครอบคลุมองค์ความรู้ตาม 5 มาตรฐานของคุรุสภา ซึ่งเป็นกรอบความรู้ด้านความเป็นครูในทุกมิติ ประกอบด้วย มาตรฐานที่ 1: การเปลี่ยนแปลงบริบทของโลก สังคม และแนวคิดของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดย ผศ.ดร.สมพร โกรมารทัต อาจารย์ประจำหลักสูตร วิชาชีพครู มาตรฐานที่ 2: จิตวิทยาพัฒนาการ จิตวิทยาการศึกษา และจิตวิทยาให้คำปรึกษาในการวิเคราะห์และพัฒนาผู้เรียนตามศักยภาพ โดย รศ.ดร.สิริพัชร์ เจษฎาวิโรจน์ อาจารย์ประจำหลักสูตร วิชาชีพครู  และ ดร.พจมาลย์ สกลเกียรติ ผู้อำนวยการหลักสูตร และอาจารย์ประจำหลักสูตรปริญญาโท สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน

สำหรับมาตรฐานที่ 3: หลักสูตร ศาสตร์การสอน และเทคโนโลยีดิจิทัลในการจัดการเรียนรู้ อบรมโดย รศ.ดร.ไสว ฟักขาว อาจารย์ประจำหลักสูตรปริญญาโท สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน มาตรฐานที่ 4: การวัด ประเมินผลการเรียนรู้ และการวิจัยเพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาผู้เรียน โดย ดร.สุดคนึง นฤพนธ์จิรกุล ผู้อำนวยการหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู ผู้จัดการสถาบันสุทธิครุศิลป์ และ มาตรฐานที่ 5: การออกแบบและการดำเนินการเกี่ยวกับงานประกันคุณภาพการศึกษา โดย ผศ.ดร.พงษ์ภิญโญ แม้นโกศล คณบดีวิทยาลัยครุศาสตร์ โดยกิจกรรมทั้งหมดออกแบบให้สอดคล้องกับโครงสร้างข้อสอบจริง เพื่อช่วยให้นักศึกษาคุ้นเคยกับโครงสร้างข้อสอบของคุรุสภาและเข้าใจวิธีคิดเชิงวิเคราะห์มากขึ้น

ดร.สุดคนึง นฤพนธ์จิรกุล ผู้จัดการสถาบันสุทธิครุศิลป์ วิทยาลัยครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดเผยว่า โครงการดังกล่าวเริ่มจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2562 จากความต้องการของนักศึกษาที่อยากให้อาจารย์ช่วยทบทวนความรู้ก่อนเข้าสอบใบประกอบวิชาชีพครู และได้รับการตอบรับอย่างดีจนจัดต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันเป็นปีที่ 6 โดยมีผู้เข้าร่วมอบรมเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ที่จะเข้าสู่การสอบใบประกอบวิชาชีพในปีนี้ รวมถึงนักศึกษาชั้นปีอื่น ๆ ที่ยังไม่เคยสอบ และศิษย์เก่าที่กลับมาทบทวนความรู้เพื่อเตรียมตัวเข้าสอบอีกครั้ง เพื่อให้ทุกคนเข้าใจแนวข้อสอบอย่างลึกซึ้งและสามารถนำความรู้ไปใช้ได้จริง 

“สำหรับการสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูของคุรุสภา แบ่งออกเป็น 2 วิชา ได้แก่ วิชาครู และวิชาเอก ซึ่งผู้ที่ต้องการขอรับใบประกอบวิชาชีพจำเป็นต้องสอบผ่านทั้งสองวิชา โดยสถาบันสุทธิครุศิลป์จัดทบทวนความรู้ในส่วนของวิชาชีพครู เนื่องจากเป็นเนื้อหาหลักที่ทุกคนต้องสอบเหมือนกัน” ผู้จัดการสถาบันสุทธิครุศิลป์ วิทยาลัยครุศาสตร์ กล่าว 

ส่วนเนื้อหาการอบรมจะครอบคลุมทุกหัวข้อที่อยู่ใน Test Blueprint ของคุรุสภา หรือโครงสร้างข้อสอบตามมาตรฐานวิชาชีพ เพื่อให้นักศึกษามีความเข้าใจด้านการอ่านโจทย์ การวิเคราะห์สถานการณ์ และการเลือกคำตอบอย่างมีเหตุผล รูปแบบการทบทวนจึงไม่ใช่เพียงการบรรยายเชิงทฤษฎี แต่เน้นการฝึกปฏิบัติจริง โดยให้นักศึกษาทดลองทำข้อสอบจำลอง วิเคราะห์คำตอบร่วมกับอาจารย์ และเรียนรู้วิธีคิดเชิงวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ ขณะเดียวกันการจัดอบรมดังกล่าวยังเปิดโอกาสให้อาจารย์ได้เห็นกระบวนการคิดของนักศึกษาอย่างใกล้ชิด ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะนำไปใช้ปรับปรุงหลักสูตรให้เหมาะสม ถือเป็นการรับฟังเสียงสะท้อนจากผู้เรียนในฐานะผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของหลักสูตรโดยตรง ซึ่งช่วยยกระดับคุณภาพการจัดการเรียนการสอนของวิทยาลัยครุศาสตร์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ดร.สุดคนึง กล่าวถึงความแตกต่างระหว่างการอบรมของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์กับสถาบันอื่น ๆ ว่า DPU มีจุดเด่น คือการใช้คณาจารย์ภายในมหาวิทยาลัยเป็นผู้สอนทั้งหมด ไม่ได้ใช้บริการติวเตอร์จากสถาบันภายนอก เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพของอาจารย์ที่เข้าใจนักศึกษาและบริบทของหลักสูตรเป็นอย่างดี ส่งผลให้การถ่ายทอดความรู้มีความใกล้ชิดและตรงประเด็นมากกว่า 

จากสถิติย้อนหลังตลอดหลายปีที่ผ่านมา พบว่า นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการทบทวนความรู้ก่อนเข้าสอบใบประกอบวิชาชีพครู ของ DPU สามารถสอบผ่านใบประกอบวิชาชีพครูในอัตราเฉลี่ยสูงถึง 80–90% โดยภาพรวมถือว่าผู้เข้าร่วมอบรมส่วนใหญ่มีแนวโน้มสอบผ่านตั้งแต่ครั้งแรก โดยอาจารย์ยังมีการติดตามผลหลังการสอบเพื่อประเมินประสิทธิผลของการจัดอบรม และปรับแนวทางการสอนเพื่อเตรียมความพร้อมของนักศึกษาให้ก้าวสู่การเป็นครูอย่างมีคุณภาพ