ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
คุณภาพชีวิต ย้อนกลับ
นิเทศฯ DPU โชว์ศักยภาพนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ผ่าน ละครเวทีต้นฉบับ “ซาฟาราห์
06 พ.ย. 2568

นิเทศฯ DPU โชว์ศักยภาพนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ผ่าน ละครเวทีต้นฉบับ “ซาฟาราห์” ผสานศิลปะ–โปรดักชัน–การจัดการอย่างมืออาชีพ

คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) โดยหลักสูตรการสื่อสารการแสดงดิจิทัล จัดแสดงผลงานของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ภายใต้รายวิชา “โครงการปฏิบัติสื่อสารการแสดงดิจิทัล” ซึ่งเป็นรายวิชาสำคัญของปีสุดท้าย มุ่งให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติจริงผ่านการสร้างสรรค์ “ละครเวที” อย่างครบกระบวนการ ตั้งแต่การวางแนวคิด พัฒนาเนื้อหา แบ่งบทบาทหน้าที่ ฝึกซ้อมการแสดง ออกแบบงานสร้าง และควบคุมการผลิต ไปจนถึงการแสดงจริงต่อสาธารณชน โดยมี ผศ.ศิวนารถ หงษ์ประยูร คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ , อาจารย์พลฤทธิ์ สมุทรกลิน อาจารย์ประจำหลักสูตร ทำหน้าที่อาจารย์ที่ปรึกษาและกำกับดูแลภาพรวม ตลอดจนคณาจารย์และนักศึกษาเข้าร่วมชมการแสดง กิจกรรมจัดขึ้นเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ณ โรงละครคณะนิเทศศาสตร์ อาคาร 12

ผศ.ยุทธนา บุญอาชาทอง หัวหน้าหลักสูตรการสื่อสารการแสดงดิจิทัล คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เปิดเผยว่า รายวิชาดังกล่าวออกแบบให้ “รวมทักษะทุกวิชาเข้าด้วยกัน” นักศึกษาต้องจับกลุ่ม เสนอแนวคิด (pitching) และคัดเลือกโปรเจกต์ที่จะร่วมทำ โดยผู้กำกับและทีมจะต้องนำเสนอหัวข้อใหญ่กับอาจารย์ที่ปรึกษาให้ชัดเจนว่า “ต้องการสื่อสารอะไรกับผู้ชม” ก่อนเปิดให้เพื่อนร่วมชั้นเลือกเข้าทีม จากนั้นจึงเริ่มกระบวนการพัฒนาเรื่องราว ตัวละคร โทนการนำเสนอ และแผนงานผลิตที่สอดคล้องทั้งด้านศิลป์และทรัพยากร

ผศ.ยุทธนา ระบุว่า โจทย์ของปีนี้มีความท้าทาย คือการทดลองรูปแบบ “ละครเพลง” ผสานการร้อง เต้น และการแสดง  ในละครเวทีเรื่อง “ซาฟาราห์” กำเนิดตะเกียงวิเศษ พรจากตะเกียงคือประตูสู่คำสาปอันนิรันดร์ เป็นอีกหนึ่งมิวสิคัลเต็มรูปแบบที่ถ่ายทอดเรื่องราวก่อนที่อะลาดินจะได้พบกับตะเกียงวิเศษ ผ่านบทเพลง การเต้น และโชว์ที่ต้องร้องสดตลอดทั้งเรื่อง โดยทีมงานต้องพิจารณาความเป็นไปได้เชิงโปรดักชันและงบประมาณจริง พร้อมทั้งบริหารความเหมาะสมของ “บทบาท” ซึ่งมีการคัดเลือกและปรับเปลี่ยนหลายรอบ เพื่อให้สอดคล้องกับทักษะการร้อง–การแสดง และความต่อเนื่องของเรื่องราว ทีมยังต้องคิดเชิงออกแบบงานสร้างภายใต้ข้อจำกัด เช่น การลดองค์ประกอบฉากแข็ง (ไม้–โครงสร้าง) มาสู่การใช้ “วัสดุผ้า–พื้นผิว–ภาพวาด” เพื่อสร้างโลกสมมติที่ตีความได้ และควบคุมต้นทุน

ด้านกระบวนการเรียนรู้ หลักสูตรตั้ง “จุดตรวจความก้าวหน้า” เป็นลำดับ ได้แก่ 20%–30%–50%–70%–90% จนถึง 100% ในวันแสดงจริง เพื่อให้นักศึกษารับผิดชอบแผนงาน ผลักดันคุณภาพงานต่อเนื่อง และเรียนรู้การแก้ปัญหาหน้างาน ทั้งเรื่องเสียง แสง เอฟเฟกต์ เวลาใช้สถานที่ ตลอดจนการบริหารทีมอาสาจากกลุ่มอื่น ๆ ที่มาช่วยงานพิธีกร ประชาสัมพันธ์ (PR) ออกแบบโปสเตอร์ ถ่ายทำวิดีโอ และงานเบื้องหลังต่าง ๆ

ในมิติเนื้อหา โปรเจกต์เรื่อง “ซาฟาราห์” ได้หยิบประเด็น “กิเลส–อำนาจ–ความโลภ” มาถ่ายทอดด้วยภาษาการแสดงกึ่งแฟนตาซี–คอมิก ให้ผู้ชมเข้าถึงง่ายแต่ยังคง “สาร” ชัดเจน โดยเน้นการทำให้ผู้ชม “รักตัวละครก่อน” แล้วจึงพาเข้าสู่ประเด็น ตั้งคำถามเชิงศีลธรรมผ่านเพลง การเต้น และซีนเชิงสัญลักษณ์ แทนการพึ่งพาฉากใหญ่ราคาแพง จุดนี้ทำให้นักศึกษาได้ฝึกคิดเชิงกลยุทธ์ด้านศิลป์ ใช้ “การเล่าเรื่อง–การแสดง–ดนตรี–ท่าเต้น” เป็นพระเอก 

ผศ.ยุทธนา ย้ำว่า บทบาทของอาจารย์คือ “โค้ช–ที่ปรึกษา” เปิดพื้นที่ให้เป็น “งานของนักศึกษา” อย่างแท้จริง เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนออกฝึกงานและทำงานจริง ผู้เรียนจึงได้ทักษะครบทั้งด้านศิลปะการแสดง การกำกับ การออกแบบ การสื่อสาร การทำงานเป็นทีม ภาวะผู้นำ–ผู้ตาม การจัดการเวลา–งบประมาณ และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือ “การสื่อสารสาร (message) ให้ผู้ชมรับรู้ได้ชัดเจนและสนุก”

ด้านนายกานต์พิพัฒน์ ทองทา หรือ“กันดั้ม” นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาการสื่อสารการแสดงดิจิทัล คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ในฐานะโปรดิวเซอร์ ได้โชว์ศักยภาพอย่างเต็มที่ในรายวิชา “โครงการปฏิบัติสื่อสารการแสดงดิจิทัล” ผ่านการสร้างสรรค์ละครเวทีเรื่อง ซาฟาราห์” ที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่บท เพลง ไปจนถึงการกำกับและโปรดักชัน โดยตนรับหน้าที่เป็น โปรดิวเซอร์หลักของโครงงาน ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของทีมในการขับเคลื่อนงานให้เกิดขึ้นจริง พร้อมเล่าถึงแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานว่า จุดเริ่มต้นของ “ซาฟาราห์” มาจากความหลงใหลใน “ละครเวทีแนว Musical” ที่ผสมผสานระหว่างการแสดงและดนตรีได้อย่างกลมกลืน

 

“วันหนึ่งผมได้ดูละครเรื่องหนึ่งที่มีตัวละครชื่อ ‘จินนี่’ แล้วเกิดคำถามขึ้นมาว่า ‘จินนี่เกิดขึ้นมาได้อย่างไร’ ผมลองค้นข้อมูลแต่ไม่พบคำตอบ ก็เลยคิดว่า ถ้าไม่มีใครบอก เราก็สร้างเรื่องของมันขึ้นมาเองเลยดีกว่า” จากคำถามนั้นกลายเป็นต้นกำเนิดของ ‘ซาฟาราห์’ ละครเพลงต้นฉบับที่ผมและทีมเขียนบทและแต่งเพลงใหม่ทั้งหมด” นายกานต์พิพัฒน์ กล่าว

ในฐานะโปรดิวเซอร์ นายกานต์พิพัฒน์มีบทบาทหลักในการบริหารจัดการทุกองค์ประกอบของละคร ตั้งแต่การกำหนดทิศทางของเรื่อง โทนของการแสดง งานฉาก เครื่องแต่งกาย ไปจนถึงการตัดสินใจในรายละเอียดสำคัญเพื่อให้เรื่องราวออกมาสมบูรณ์  ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดของโปรเจกต์นี้ คือการเริ่มต้นทุกอย่างจากศูนย์ เนื่องจาก “ซาฟาราห์” เป็นเรื่องราวที่ไม่มีอยู่มาก่อน ทุกขั้นตอนจึงต้องคิดและสร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด “ทั้งการวางโครงเรื่อง การเขียนบท ไปจนถึงการเชื่อมให้เรื่องราวไหลลื่น ถือเป็นประสบการณ์ที่สอนให้คิดอย่างเป็นระบบและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีขึ้น

นายกานต์พิพัฒน์ ยังยอมรับว่าการทำงานครั้งนี้ทำให้ได้เรียนรู้เรื่อง “การทำงานร่วมกับผู้อื่น” อย่างแท้จริง “ละครเวทีไม่สามารถทำคนเดียวได้เลย ทุกขั้นตอนต้องอาศัยการสื่อสาร การฟังกัน และความเข้าใจซึ่งกันและกัน ตนได้เรียนรู้ว่าความสำเร็จของงานไม่ได้อยู่ที่ใครเก่งที่สุด แต่อยู่ที่เรารู้จักทำงานร่วมกับทีมได้ดีที่สุด แม้ระยะเวลาเตรียมการจะมีเพียงราว 2 เดือน ตนและทีมใช้เวลาทุกวันอย่างคุ้มค่า เพราะทุกคนตั้งใจ ถึงเวลาจะน้อยแต่เราพยายามเต็มที่ ทั้งซ้อม ทั้งแก้ไข ทั้งเพิ่มรายละเอียด พอเห็นผลงานจริงก็รู้สึกตื่นเต้นและตื้นตันมาก เพราะผลลัพธ์ออกมาดีกว่าที่คิดไว้

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 1 - 15 พฤศจิกายน 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
15 ต.ค. 2568
กล่าวได้ว่าการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญต่อการปกครอง ในระบอบประชาธิปโตย และก็กล่าวได้อีกเช่นกัน ว่า รัฐธรรมนูญ 2540 คือต้นธารที่ส่งผลให้การ กระจายอำนาจสู่ห้องถิ่นของประเทศไทยมีความ สำคัญมากขึ้นมาเป็นลำดับซึ่งแม้ในตลอด 20 กว่าปี ที่ผ่านม...