รศ.ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า แถลงข่าวการจัดประชุมวิชาการสถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 27 ประจำปี 2568 ภายใต้หัวข้อ ประชาธิปไตยและการทูตสิ่งแวดล้อม : แพลตฟอร์มสำหรับประเทศไทยในโลกแห่งการเปลี่ยนแปลง ณ อาคารรัฐสภา โดยในช่วงเช้าเป็นการประชุมเชิงการทูต (Diplomatic Briefing) โดยมีการรายงานผลการดำเนินงานในปีนี้และทิศทางในปีหน้าของสถาบันพระปกเกล้า จากนั้นเป็นการประชุมแบบปิดระหว่างผู้แทนจากกรรมาธิการทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภากว่า 50 คณะ กับเอกอัครราชทูตจากกว่า 50 ประเทศ เพื่อเปิดเวทีหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลในประเด็นสำคัญเกี่ยวกับประเทศไทยร่วมกัน

         นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการสรุปสถานการณ์ประเทศไทยประจำปี (Thailand Annual Review) โดยผู้แทนจากฝ่ายนิติบัญญัติและอดีตนักการทูตเข้าร่วม เพื่อนำเสนอข้อมูลสำคัญที่เป็นกลางและถูกต้องแก่ผู้แทนทางการทูต ทั้งเรื่องการปฏิรูปกฎหมาย คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ การทำงานของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา และการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภาโลก (IPU) ที่ได้มีมติเห็นชอบให้ข้อเสนอปัญหาสแกมเมอร์ที่ผู้แทนไทยและพันธมิตรเป็นผู้เสนอเป็นวาระเร่งด่วน ซึ่งกิจกรรมนี้จะช่วยให้ผู้แทนทางการทูตจากนานาประเทศได้รับข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ เป็นกลาง และสะท้อนบทบาทของรัฐสภาไทยต่อประชาคมโลก

 เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า  ยังระบุด้วยว่า ในช่วงบ่ายนั้น จะเป็นการสัมมนาวิชาการเชิงประเด็น (Thematic Seminar) เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และข้อเสนอเชิงนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและประชาธิปไตยในเชิงลึก โดยเปิดโอกาสให้ผู้แทนจากรัฐสภา ภาครัฐ ภาคเอกชน นักวิชาการ ภาคประชาสังคม และสื่อมวลชน ได้เข้ามามีส่วนร่วม กิจกรรมนี้ประกอบด้วยการปาฐกถาเปิดและปาฐกถาพิเศษจากวิทยากรชั้นนำในระดับนานาชาติและระดับประเทศ รวมทั้งการอภิปรายในห้องสัมมนาย่อยว่าด้วยบทบาทรัฐสภากับธรรมาภิบาลด้านสิ่งแวดล้อม และความร่วมมือพหุภาคีในการทูตสิ่งแวดล้อม การสัมมนานี้ถือเป็นเวทีในการหาทางออกประเทศไทย และจะได้นำผลของการประชุมนี้ ไปแถลงยังการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 30 (COP 30) ซึ่งเป็นการประชุมด้านสิ่งแวดล้อมของโลก ที่ประเทศบราซิลในเดือนนี้ด้วย และช่วงเย็น จะมีงานเลี้ยงรับรองทางการทูต (Annual Ambassador Ball) เพื่อสร้างเครือข่ายและความสัมพันธ์อันดีกับคณะทูตและองค์กรระหว่างประเทศ และสะท้อนความมุ่งมั่นของรัฐสภาและสถาบันพระปกเกล้าในการสร้างมิตรภาพ ความไว้วางใจ และการประสานความร่วมมือกับนานาชาติ