ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เกษตรนำไทย ย้อนกลับ
กรมสหกรณ์ ขอ 1,000 ล้านเสริมสภาพคล่องกองทุน หนุนเศรษฐกิจฐานราก
19 พ.ย. 2568

นายนิรันดร์ มูลธิดา อธิบดี กรมส่งเสริมสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาสหกรณ์ เปิดเผยว่า กรมเตรียมของบกลางจากรัฐบาล 1,000 ล้านบาท เพื่อสมทบเข้ากองทุนพัฒนาสหกรณ์ เสริมสภาพคล่อง ให้สหกรณ์กู้ยืมไปรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร ในช่วงฤดูกาลที่ผลผลิตออกมาพร้อมกันจำนวนมาก ทั้ง ข้าว ผลไม้ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และสินค้าเกษตรเศรษฐกิจที่สำคัญ ช่วยเหลือเกษตรกรในการพยุงราคาและรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตรภายในประเทศได้อีกทางหนึ่งทั้งกองทุนพัฒนาสหกรณ์ (กพส.) เป็นกลไกสำคัญในการเสริมสภาพคล่องและสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของสหกรณ์ทั่วประเทศ โดยทำหน้าที่เป็นแหล่งเงินทุนเพื่อให้สหกรณ์นำไปบริหารธุรกิจด้านการเกษตร ทั้งการรวบรวมผลผลิตจากเกษตรกร การจัดหาเครื่องมือเพื่อการแปรรูป และนำไปให้บริการสมาชิกกู้ยืมเพื่อทำอาชีพการเกษตร

ปีงบประมาณ 2569 ได้จัดสรรวงเงินไว้ 5,100 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการปกติ จำนวน 3,060 ล้านบาท คิดอัตราดอกเบี้ยตามชั้นลูกหนี้ กพส. ตั้งแต่ 1.5-4 % หรือเฉลี่ย 2.05%โดยเป็นการนำเงินให้สมาชิกกู้ยืมเป็นเงินทุน การจัดหาสินค้ามาจำหน่าย รวบรวมและแปรรูปผลผลิต หรือลงทุนในทรัพย์สิน และวงเงินโครงการพิเศษ จำนวน 2,040 ล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาลและหน่วยงาน อัตราดอกเบี้ยต่ำ 0-1% เช่น การให้เงินกู้ปลอดดอกเบี้ย ในโครงการสนับสนุนเงินกู้แก่สหกรณ์ที่ประสบสาธารณภัย ช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของสมาชิกในการฟื้นฟูอาชีพ

เป้าหมายของกองทุนพัฒนาสหกรณ์ คือการเป็นแหล่งเงินทุนให้สหกรณ์ไปทำธุรกิจ ที่เกี่ยวเนื่องกับการให้บริการสมาชิกสหกรณ์ทุกประเภท ทั้งการให้สินเชื่อแก่สหกรณ์เพื่อดำเนินธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงเป็นทุนหมุนเวียนในการให้เงินกู้แก่สมาชิก การรวบรวมผลผลิต และการจัดหาสินค้ามาจำหน่าย โดยมีเป้าหมายในการส่งเสริมปริมาณธุรกิจสหกรณ์ให้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 3%การฟื้นฟูสหกรณ์ที่ขาดทุนสะสมให้มีกำไรเพิ่มขึ้น 25% และพัฒนาความเข้มแข็งของสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร ให้มีความเข้มแข็งเพิ่มขึ้นจากปีก่อน

ผลการดำเนินงานในปี 2566 – 2568 พบว่ากองทุนพัฒนาสหกรณ์ (กพส.) ได้อนุมัติเงินกู้ให้แก่สหกรณ์ปีละกว่า 1,700 แห่ง เฉลี่ยประมาณ 2.45 ล้านบาท/สหกรณ์ ส่งผลให้สหกรณ์มีปริมาณธุรกิจเพิ่มขึ้นมูลค่ากว่า 22,000 ล้านบาท/ปี ช่วยลดต้นทุนจากการกู้ยืมแหล่งเงินทุนอื่น ๆ คิดเป็นมูลค่า 207 ล้านบาท/ปี มีสมาชิกได้รับประโยชน์รวมกว่า 300,000 คน/ปี

สำหรับปี 2568 ได้กำหนดกรอบวงเงินกู้รวม 5,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการปกติ 3,000 ล้านบาท และโครงการพิเศษ 2,000 ล้านบาท จำนวน 18 โครงการ โดยมีผลการอนุมัติและเบิกจ่ายแล้วกว่า 97.99% ของกรอบวงเงินทั้งหมด สะท้อนถึงบทบาทเชิงรุกของกองทุนพัฒนาสหกรณ์ ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากผ่านระบบสหกรณ์ไทยอย่างเป็นรูปธรรม

ในปีงบประมาณ 2569 กองทุนพัฒนาสหกรณ์ได้กำหนดกรอบวงเงินให้กู้ยืมจำนวน 5,100 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมและสานต่อการพัฒนาสหกรณ์ให้มีความเข้มแข็ง โดยมุ่งเน้นสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนแก่สหกรณ์ทุกระดับ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจและสร้างรายได้แก่สมาชิก โดยดำเนินการผ่าน 18 โครงการพิเศษ

ครอบคลุมการพัฒนาทั้งภาคเกษตรและนอกภาคเกษตร เช่น การแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกร และการพัฒนาในพื้นที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ การส่งเสริมสหกรณ์ด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม พลังงานสะอาด (EV) และการตลาดสมัยใหม่ การยกระดับการผลิตสินค้าเกษตรสำคัญ เช่น โคเนื้อ กาแฟ น้ำนมดิบ เมล็ดพันธุ์ และผลไม้คุณภาพ การสนับสนุนอาชีพสมาชิกสหกรณ์ นอกภาคเกษตร การพัฒนาเครือข่ายธุรกิจ และการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของสหกรณ์

ตลอดจนการช่วยเหลือสหกรณ์ที่ประสบปัญหาการดำเนินงาน ประสบสาธารณภัย หรือได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ โดยทุกโครงการกำหนดอัตราดอกเบี้ยต่ำเพียง 1% ต่อปี เพื่อเสริมสภาพคล่อง ยกระดับศักยภาพทางเศรษฐกิจของสหกรณ์ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศอย่างยั่งยืน

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2568
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
15 ต.ค. 2568
กล่าวได้ว่าการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญต่อการปกครอง ในระบอบประชาธิปโตย และก็กล่าวได้อีกเช่นกัน ว่า รัฐธรรมนูญ 2540 คือต้นธารที่ส่งผลให้การ กระจายอำนาจสู่ห้องถิ่นของประเทศไทยมีความ สำคัญมากขึ้นมาเป็นลำดับซึ่งแม้ในตลอด 20 กว่าปี ที่ผ่านม...