ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
พลังงาน / สิ่งแวดล้อม ย้อนกลับ
GGC - KTIS ร่วม ฟินแลนด์ เปลี่ยนชานอ้อยเป็นเอทานอล พัฒนา นครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์เฟส 2
22 ส.ค. 2561

บริษัทโกลบอลเคมิคอล จำกัด (มหาชน) (GGC) จับมือบริษัท KTIS รลงนามกับบริษัท Chempolis ของประเทศฟินแลนด์ พัฒนานวัตกรรมนำชานอ้อยมาผลิตเป็นไบโอพลาสติก สร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจและเกษตรกร

นายเสกสรร อาตมางกูร กรรมการผู้จัดการ GGC กล่าวว่า ตามที่ GGC และ KTIS ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันเมื่อต้นปี 2561  เพื่อศึกษาและวางแผนก่อสร้างโครงการนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์ (Nakhon Sawan Biocomplex) หรือ NBC  ซึ่งแบ่งโครงการเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่หนึ่งเป็นโครงการลงทุนพัฒนาอุตสาหกรรมเคมีชีวภาพครบวงจร ประกอบด้วยโรงงานผลิตเอทานอล ไฟฟ้าชีวมวล ระบบสาธารณูปโภค และระบบส่งเสริมกระบวนการผลิตกลางของโครงสร้างพื้นฐานรองรับโครงการระยะที่สอง (มูลค่าโครงการจากการประเมินราว 7,650 ล้านบาท) และโครงการระยะที่สองประกอบด้วย โรงงานเคมีและพลาสติกชีวภาพ โรงงานอาหารเสริม (มูลค่าการลงทุนจากการประเมินราว 10,000-30,000 ล้านบาท ซึ่งในระยะที่สองนี้  GGC และ KTIS มีแนวทางในการนำชานอ้อย  ซึ่งเป็น Biomass มาสร้างมูลค่าเพิ่ม  ด้วยการนำมาเป็นวัตถุดิบ ในการผลิตผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้ง Chempolis ฟินแลนด์  เป็นผู้พัฒนา Cellulosic Technology ของตนเอง  และสามารถนำชานอ้อยมาเปลี่ยนเป็นน้ำตาลและสารมูลค่าสูง อาทิ Furfural Acetic Acid และ Lignin จึงสนใจในการศึกษาความเป็นไปได้ เพื่อพัฒนาไปสู่โครงการในอนาคต

คาดว่าอีก 5-10 ปีข้างหน้าการลงทุนก่อสร้างนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์ในพื้นที่นำร่องจังหวัดนครสวรรค์ จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจชีวภาพและมูลค่าเพิ่มจากอ้อยสูงขึ้น  เกิดการพัฒนาและส่งเสริมความรู้สมัยใหม่ด้านเกษตรกรรมในพื้นที่ในระยะเริ่มต้น  รายได้เกษตรกรต่อคนต่อปีเพิ่มขึ้นจากอัตราการจ้างงานในกลุ่มพลังงานชีวภาพ เคมีและพลาสติกชีวภาพหลายหลายตำแหน่ง  ช่วยสนับสนุนการผลิตพลังงานชีวภาพที่สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน

นายประพันธ์ ศิริวิริยะกุล  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม KTIS กล่าวว่า การที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติในหลักการเพื่อส่งเสริมการลงทุนไบโอชีวภาพ ด้วยการจะแก้ไขพ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย เพื่อให้สามารถสร้างโรงงานหีบอ้อยใกล้เคียงโรงงานเดิมภายในรัศมี 50 กิโลเมตรได้ แต่ต้องได้รับความเห็นชอบจากเจ้าของโรงงานเดิมในพื้นที่เพื่อไม่ให้เกิดการแย่งวัตถุดิบอ้อยระหว่างกัน รวมถึงจะให้นำน้ำอ้อยไปผลิตเป็นสินค้าอื่นอย่างเอทานอลได้นอกเหนือจากน้ำตาลทราย ตลอดจนจะให้มีสิทธิประโยชน์ใกล้เคียงกับการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นั้น ก็จะทำให้โครงการ NBC ระยะที่ 2 มีโอกาสเกิดขึ้นได้มากขึ้น โดยปัจจุบันก็มีผู้ประกอบการเข้ามาเจรจาร่วมลงทุนมากขึ้น โดยการลงทุน NBC ทั้ง 2 ระยะ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 40,000-50,000 ล้านบาท  ซึ่งการดำเนินการแก้ไขพ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย ดังกล่าว ยังต้องรอการประกาศที่ชัดเจน

สำหรับโครงการ NBC ระยะแรกจะอยู่ภายใต้โครงการชบา โดยจะโรงงานหีบอ้อย กำลังการผลิต 2.4 ล้านตันอ้อย/ปี ,โรงไฟฟ้า 85 เมกะวัตต์ (MW) และโรงงานเอทานอล 6 แสนลิตร/วัน เชื่อว่าจะเป็นโครงการที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศและเกษตรกร ที่ปัจจุบันมีปริมาณอ้อยเข้ามาจำนวนมาก แต่ต้องใช้ระยะเวลานานในการหีบอ้อยแล้วเสร็จ บางช่วงที่ฤดูหีบอ้อยซึ่งปกติเริ่มขึ้นประมาณเดือน พ.ย.ใช้เวลายาวนานถึงเดือน เม.ย.-พ.ค.แต่หากมีโครงการเกิดขึ้นก็จะทำให้สามารถหีบอ้อยได้เร็วขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อเกษตรกร

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...