นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการทำไพรมารีโหวตรูปแบบใหม่ว่า จะทำไพรมารีโหวตรูปแบบไหนก็ได้ ไม่มีอะไรขัดข้อง ไม่เกี่ยงว่าต้องเป็นแบบใหม่หรือแบบเก่า เพราะการทำไพรมารีโหวตคือการให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วมทางการเมือง ในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งนั้นพรรคประชาธิปัตย์เปิดโอกาสให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางมานานหลายสิบปีแล้วโดยที่ไม่มีกฎหมายบังคับแต่อย่างใด ซึ่งสมาชิกพรรคสามารถเสนอชื่อบุคคลที่สมาชิกพรรคเห็นว่าเหมาะสมจะเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งในที่ประชุมสาขาพรรค จากนั้นสาขาพรรคก็จะส่งรายชื่อมาให้คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนจะมีชื่อเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งต่อไป
ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของสมาชิกพรรคมาโดยตลอด ถึงแม้กฎหมายพรรคการเมืองไม่ได้กำหนดให้สมาชิกพรรคต้องเลือกหัวหน้าพรรคโดยตรง แต่ในการเลือกหัวหน้าพรรคครั้งใหม่ที่จะมีขึ้น หลังจากมีการคลายล็อคแล้ว ทางพรรคประชาธิปัตย์ได้กำหนดให้มีการหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคโดยตรงจากสมาชิกพรรคทั่วประเทศ ด้วยวิธีการที่นำเอาเทคโนโลยีใหม่มาอำนวยความสะดวกในการทำงาน ซึ่งจะช่วยทำให้สมาชิกพรรคมีส่วนร่วมทางการเมืองได้เต็มที่
ส่วนหลังจากคลายล็อคแล้ว ยังมีความไม่ชัดเจนว่าอะไร ทำได้หรือไม่ได้อย่างไรนั้น นายองอาจกล่าวว่า ถ้า คสช. และรัฐบาลคำนึงถึงการปฏิรูปการเมืองและเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามกฎหมายได้ก็ไม่น่ามีปัญหาเรื่องความไม่ชัดเจนในทางปฏิบัติว่าอะไรทำได้หรือไม่ได้หลังคลายล็อค แต่เมื่อคนบางคนใน คสช. และรัฐบาลจะสืบสานปณิธานการสืบทอดอำนาจต่อไปเลยทำให้ต้องใช้อำนาจที่มีอยู่มาออกคำสั่งแก้ไขกฎหมายจนทำให้ทุกอย่างไม่เป็นไปตามปกติ ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ การปรับ - เปลี่ยน – เพิ่ม – ลด กฎเกณฑ์กติกาทั้งหลายทั้งปวงก็ล้วนแล้วแต่เป็นไปเพื่อประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง
ขอฝากผู้มีอำนาจคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจมีคำสั่งอะไรออกมา เพราะถ้าเป็นคำสั่งที่ก่อให้เกิดการใช้อำนาจโดยมิชอบ มีการเอารัดเอาเปรียบกันมากเกินไป ก็อาจกลายเป็นบูมเมอแรงมาทิ่มแทงผู้มีอำนาจให้เกิดความเสียหายได้
ทางที่ดีที่สุดคือทำตรงไปตรงมา เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้โดยไม่มีอะไรสะดุด น่าจะเป็นสุดยอดปรารถนาของคนในชาติมากกว่า