นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต ส.ส. จังหวัดนครนายก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตรองประธานคณะอนุกรรมาธิการวิสามัญป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) กล่าวถึง กรณีคำพิพากษาศาลอาญากรุงเทพฯ ใต้ เรื่องสัญญาระหว่างกลุ่มคิง พาวเวอร์ กับ ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) หลังจากการได้มาของสัญญาโดยขัดต่อกฎหมาย และยังบริหารสัญญาถูกต้องตามสัญญาหรือไม่ ในกรณีการที่สัญญา ทอท. อนุญาตแต่บริษัท คิงพาวเวอร์ สุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินการร้านค้าเชิงพาณิชย์ และมีหลักการให้สามารถรับผลประโยชน์ได้ 2 เรื่องคือ
1. เรื่องเก็บผลตอบแทนจากร้านค้าที่มาเช่าพื้นที่ และขายสินค้าในสนามบินไม่เกินร้อยละ 20 และนำส่งค่าตอบแทนให้แก่ ทอท. ร้อยละ 15 โดยไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
2. เรื่องเก็บค่าเช่าได้ตามอัตราที่ระบุไว้ในสัญญา
3. ทั้ง 2 กรณี สัญญาบริหารเชิงพาณิชย์ ไม่ให้เรียกเก็บเกินจากสัญญา เพราะต้องการควบคุมมิให้ผู้รับสัญญาบริหารคือ บริษัทคิง พาวเวอร์ สุวรรณภูมิ ไปเรียกเก็บเกิน หรือเงินอื่นใดทั้งสิ้น เพื่อมิให้สินค้าแพงเกินจากร้านค้าห้างในเมือง เกิน 20%
4. ปรากฏว่าบริษัท คิง พาวเวอร์ สุวรรณภูมิ ได้ไปทำสัญญาเรียกเก็บเงินค่าตอบแทน (ค่าแป๊ะเจี๊ยะ) การได้รับสิทธิ์ในการประกอบกิจการตามสัญญาแต่ละสัญญา เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารทหารไทย ต้องเก็บค่าสิทธิ์กินเปล่า ให้แก่ บริษัท คิง พาวเวอร์ สุวรรณภูมิ รายละ 100 ล้านบาท ซึ่งมิได้เกี่ยวข้องกับการลงทุนค่าก่อสร้างใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งปรากฏตามสัญญาระบุไว้ว่า ให้ผู้รับอนุญาตต้องออกแบบและขออนุญาตการก่อสร้างเองทุกราย
จึงเป็นเหตุทำให้ก๋วยเตี๋ยวชามละ 200 กว่าบาท อาหารจานด่วน จานละ 200 กว่าบาท เป็นการทำผิดสัญญามาตลอด 10 ปี และ ทอท. ก็ทราบเรื่องที่บริษัท คิง พาวเวอร์ สุวรรณภูมิ กระทำผิดสัญญาสร้างปัญหาให้ประชาชนที่ต้องเดินทางเข้าและออกต่างประเทศ อีกทั้งทำลายระบบการท่องเที่ยวที่ร้องเรียนมาถึงนายกรัฐมนตรีว่า อาหารแพงเกินเหตุจนปัจจุบันยังไม่แก้ไขให้ถูกต้องตามสัญญา
ศาลจึงมีคำพิพากษาว่า ทอท. เป็นรัฐวิสาหกิจโดยกระทรวงการคลังถือหุ้นร้อยละ 70 จึงถือเป็นทรัพย์สินของประเทศ จำเลย (นายชาญชัย) ให้สัมภาษณ์โดยอาศัยข้อมูลจากการศึกษา วิเคราะห์ และตรวจสอบของคณะกรรมการและหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจตรวจสอบตามกฎหมาย การกระทำของจำเลย (นายชาญชัย) จึงเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน และเป็นสิ่งที่ประชาชนทั่วไป รวมทั้งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่จะกระทำได้เพื่อเผยความจริงอันเป็นการสะท้อนความเป็นไปในสังคมและช่วยเป็นหูเป็นตาแทนประชาชนในการทำหน้าที่ตรวจสอบการทุจริตประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐและผู้เกี่ยวข้อง อันเป็นการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน อีกทั้งเป็นการกระตุ้นเตือนผู้มีอำนาจในการกำกับดูแลและหน่วยงานของรัฐทั้งนี้เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหา
เมื่อศาลได้มีคำพิพากษาออกมาเช่นนี้จึงขอเตือนคณะกรรมการ ทอท.จะทำการประกวดราคาโครงการให้อนุญาตให้เอกชนร่วมทุนในโครงการร้านค้าปลอดอากรซึ่งมีมูลค่าเกิน 1,000 ล้านบาท ต้องดำเนินการตามกฎหมาย พ.ร.บ. ร่วมทุนฯ ปี 2556 อีกทั้งเรื่องเก่ายังไม่แก้ไขสิ่งที่ผิดกฎหมายให้ถูกต้องด้วย มิฉะนั้น จะมีกรณีฟ้องในคดีที่ 2 เรื่องการต่อสัญญาสองครั้งมิชอบด้วยกฎหมาย พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ตามที่ศาลวินิจฉัยตามเอกสารที่นำเสนอศาลอาญากรุงเทพฯ ใต้