บางจากฯ โชว์ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกปี 2561 ยอดกลั่นน้ำมันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ชูนวัตกรรมสีเขียวผ่านโครงการนำร่องแลกเปลี่ยนซื้อขายไฟฟ้าด้วยระบบ GEMS ผลักดันยอดขายผ่านบัตรบางจากกรีนไมล์ และ Application สำหรับสมาร์ทโฟน อำนวยความสะดวกให้กับสมาชิกบัตรบางจาก พร้อมเผยโฉมปั๊มใหม่ตู้จ่ายทันสมัย
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัท บางจากฯ 9 เดือนแรกของปี 2561 ว่า มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 143,244 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีและค่าเสื่อม (EBITDA) 10,518 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 4,710 ล้านบาท โดยเป็นกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 4,009 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 2.91 บาท สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2561 บริษัทฯ และบริษัทย่อย มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 53,461 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 37 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า มี EBITDA 4,160 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 2,216 ล้านบาท โดยเป็นกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 1,856 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 75 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นร้อยละ 84 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.35 บาท โดยหลักมาจากธุรกิจโรงกลั่นที่มีอัตราการผลิตระดับสูงและค่าการกลั่นที่ดี และธุรกิจพลังงานไฟฟ้ารับรู้กำไรจากการขายสินทรัพย์ให้แก่กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน
นอกจากนี้บางจากฯ ได้เปิดตัวบัตรสมาชิกรูปแบบใหม่ “บางจากกรีนไมล์” สามารถสะสมคะแนนได้ทุกผลิตภัณฑ์น้ำมันรวมทั้งสินค้าและบริการในเครือบางจาก พัฒนา Bangchak Mobile Application เพื่อเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วให้กับสมาชิกมากขึ้น
อีกทั้งมีสถานีบริการรูปแบบทันสมัยที่ใช้ตู้จ่ายแบบแขวนระบบดิจิตอล บนถนนสุขุมวิท ซอย 62 เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้บริการ พร้อมนวัตกรรมใหม่ในสถานีบริการน้ำมันบางจาก ศรีนครินทร์ ที่ติดตั้งระบบบริหารจัดการพลังงานชุมชนสีเขียว Green Community Energy Management System หรือ GEMS เพื่อริเริ่มโครงการนำร่องประมูลซื้อไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยี Blockchain ในระบบผลิตไฟฟ้าแบบไม่เชื่อมต่อกับสายส่งการไฟฟ้า (Smart Isolated Microgrid) เพื่อให้อาคารและร้านค้าที่อยู่ในพื้นที่สามารถซื้อ-ขายเพื่อใช้ไฟฟ้าในต้นทุนที่ต่ำได้ปริมาณมากที่สุด
นอกจากนี้บางจากยังได้นำนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาใช้ ด้วยการต่อยอดการใช้แก้วไบโอคัพในร้านอินทนิล โดยเปลี่ยนเป็นแก้วที่ใช้ฝาใหม่ไร้หลอด เพื่อลดปริมาณขยะจากการใช้หลอดพลาสติก ลดผลกระทบและร่วมดูแลสิ่งแวดล้อม รวมถึงร่วมโครงการพัฒนาพื้นที่แก่นมะกรูด จังหวัดอุทัยธานี ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรชุมชน สามารถรองรับผู้มา
เยี่ยมชมได้ตลอดทั้งปี โดยพัฒนาองค์ความรู้ทางการเกษตรเพื่อการประกอบอาชีพของเกษตรกร การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน เช่น กล้วยคลุกสมุนไพร - ธัญพืช ส่งเสริมการปลูกอ้อยชนิดคั้นน้ำเพื่อนำมาจำหน่ายเป็นวัตถุดิบให้ร้านสพาร์ (SPAR) ช่วยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ส่งเสริมการพึ่งพาตนเอง และเพิ่มช่องทางกระจายสินค้า