จากกรณีประชาชนในพื้นที่ชุมชนสุขสันต์พัฒนา แขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร พบรอยเท้าปริศนา ซึ่งชาวบ้านกังวลว่าอาจจะเป็นรอยเท้าหมี เนื่องจากมีหลักฐานพบรอยเท้าคล้ายหมี ต้นกล้วยในชุมชนถูกทำลายและแมวหายไปหลายตัว โดยบริเวณพื้นที่ดังกล่าว เป็นพื้นที่ทุ่งมีต้นไม้รกทึบ  อีกทั้งมีชาวบ้านเห็นเงาของสัตว์ขนาดสูงประมาณ  1 เมตร อยู่ในทุ่ง เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ก่อน ทำให้ชาวบ้านหวาดกลัว เกรงว่าจะเป็นสัตว์อันตราย เข้ามาทำร้ายคนในชุมชนนั้น 

กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มอบหมายให้สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า โดยฝ่ายสุขภาพสัตว์ป่า กลุ่มงานเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า และกลุ่มงานวิจัยสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง บริเวณชุมชนดังกล่าว พบว่า จากการเดินลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่ ติดตั้งกล้องดักถ่ายภาพ และเก็บตัวอย่างอุจจาระมาตรวจสอบ ซึ่งจากการพิจารณาหลักฐานที่พบในพื้นที่ดังกล่าว รอยเท้าที่พบจากการตรวจสอบอย่างละเอียดคือรอยเท้าของสุนัขไม่ใช่รอยเท้าหมีส่วนร่องรอยขีดข่วนบนต้นไม้และร่องรอยการทำลายต้นกล้วย คาดว่าเป็นรอยที่เกิดจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก เนื่องจากรอยที่เกิดเป็นรอยข่วนแนวตรงจากบนลงล่าง ซึ่งต่างจากรอยข่วนของหมี เพราะขาหน้าของหมีจะอยู่ข้างลำตัว รอยที่เกิดจึงจะเกิดขึ้นด้านข้างสิ่งที่ตัวหมีกระทำ สำหรับ คำบอกเล่าของชาวบ้าน ที่พบสัตว์ลักษณะคล้ายหมี จำนวน 2- 3 ตัว สีดำและน้ำตาล ได้ไล่แมวขึ้นไปบนต้นไม้ ซึ่งยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าใช่หมีจริงหรือไม่ แต่จากการเฝ้าสังเกตการณ์ ณ บ้านหลังดังกล่าว ไม่พบความผิดปกติใดๆ ทั้งนี้ยังพบว่าโดยรอบชุมชนมีสุนัขอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับสัตว์ที่มีผู้พบเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว อีกทั้งภาพจากกล้องดักถ่ายภาพที่เจ้าหน้าที่ได้ติดตั้งไว้ พบสุนัขจำนวน 3 ตัว อยู่ในบริเวณพื้นที่เกิดเหตุตอนกลางคืนและแมวที่หายไป นั้นจากการสอบถามประชาชนโดยรอบแล้ว พบว่า ภายในชุมชนมีการเลี้ยงเป็ด ไก่ ห่าน และแมว ซึ่งช่วงที่ผ่านมามีแมวหายไปแบบไม่ทราบสาเหตุ แต่สัตว์ชนิดอื่นๆ ยังคงอยู่ปกติ และยังพบสุนัขจรจัดในพื้นที่ใกล้เคียง จึงคาดว่าสัตว์ที่เข้ามาทำร้ายแมว เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก หรือสัตว์อื่นๆ เช่น งูเหลือม เนื่องจากสภาพแวดล้อมมีป่า ซึ่งอาจเป็นที่อยู่อาศัยของงูเหลือมได้ ทั้งนี้กลุ่มงานวิจัยสัตว์ป่า ได้ทำการเก็บตัวอย่างอุจจาระของสัตว์ชนิดนั้นไปตรวจสอบพบขนแมวอยู่ในอุจจาระดังกล่าว และเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ห่างไกลจากพื้นที่ป่าอนุรักษ์ และพื้นที่โดยรอบไม่มีการเลี้ยงสัตว์ป่า อันเป็นเหตุให้สัตว์ป่าหลุดหรือพลัดหลงมาได้ จึงสามารถสรุปได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากสัตว์ป่าที่ดุร้าย