พันตำรวจเอกณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรมราชทัณฑ์ได้จัดทำพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างกรมราชทัณฑ์ และ สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ ห้องประชุม DOC ชั้น 7 อาคาร 1 บริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นศูนย์กลางการประชาสัมพันธ์เพื่อขอรับบริจาค และสนับสนุนเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ในการศึกษาอบรม ตลอดจนการจัดการเรียนการสอนวิชาชีพ ด้านคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีให้แก่ผู้ต้องขังในเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้ความสำคัญในการสนับสนุนพันธกิจด้านการแก้ไขพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องขัง เพื่อคืนคนดีสู่สังคม เป็นภารกิจสำคัญที่ต้องการความร่วมมือและสนับสนุนจากทุกภาคส่วน และในด้านการจัดการศึกษาให้แก่ผู้ต้องขังในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่ขาดโอกาสทางการศึกษาให้มีศักยภาพที่จะเรียนรู้และต่อยอดนำไปใช้ในการประกอบอาชีพภายหลังพ้นโทษ เพื่อไม่ให้กลับมากระทำผิดซ้ำ ซึ่งเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศจำนวน 143 แห่ง โดยมีผู้ต้องขังที่ศึกษาต่อตั้งแต่ระดับผู้ไม่รู้หนังสือระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาสายอาชีพ จนถึงระดับอุดมศึกษา รวมจำนวนกว่า 42,792 คน (ข้อมูลภาคเรียนที่ 1/2561) และได้มีการเปิดการเรียนการสอนด้านหลักสูตรคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ดังนั้น วิทยากรผู้ให้ความรู้ในหลักสูตรดังกล่าวและเครื่องคอมพิวเตอร์ จึงมีส่วนสำคัญยิ่งในการพัฒนาผู้ต้องขังให้มีความรู้ ในยุคสังคมแห่งเทคโนโลยีและเป็นการต่อยอดให้แก่ผู้ต้องขังสามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้ หรือเป็นแหล่งเรียนรู้ผ่านหนังสืออิเล็กทรอนิคส์ E-book ของห้องสมุดในเรือนจำ เพื่อเป็นการยกระดับความรู้ และเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีให้แก่ผู้ต้องขังได้มีความรู้ ทักษะทางวิชาชีพ มีเจตคติที่ดีต่อการประกอบอาชีพ
พันตำรวจเอกณรัชต์ฯ กล่าวต่อไปว่า กรมราชทัณฑ์ได้ให้ความสำคัญในการพัฒนาด้านการศึกษาให้แก่ผู้ต้องขัง เพื่อส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้ให้กับผู้ต้องขัง ตลอดจนมุมมองในมิติต่างๆ และเป็นแนวทางนำไปสู่การศึกษาได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ต้องขัง ในการพัฒนาพฤตินิสัย โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ให้ผู้ต้องขังได้รับการพัฒนาตนเองขณะต้องโทษ สามารถกลับตนเป็นพลเมืองที่ดีคืนสู่สังคมและใช้ชีวิตอย่างปกติสุข อันจะส่งผลต่อการพัฒนาประเทศชาติต่อไป