นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงประเด็นที่นายวิษณุ เครืองาม ออกมาชี้แจงถึงรัฐบาลจะทำอะไรก็ได้ระหว่างการเลือกตั้งที่จะถึง ทั้ง 4 รัฐมนตรีและนายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชายังทำงานได้ปกติ จึงอยากให้นายวิษณุกลับไปดูคำแนะนำที่เคยพูดไว้เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2561 ว่า “เมื่อรัฐมนตรีสังกัดพรรคการเมืองแล้ว ถ้าจะทำงานการเมืองก็ให้ลาออกไป และห้ามทำ 3 ข้อ 1. ใช้เวลาหลวง 2. ใช้ของหลวง 3.ใช้คนหลวง” แต่วันนี้กลับมาพูดใหม่ว่า คนของรัฐบาล ย่อมมีโอกาสได้เปรียบ ยังสามารถทำทุกเรื่องได้ตามปกติ
“สิ่งที่หลายฝ่ายยังกังวลคือการนำทรัพยากรของหลวงมาใช้โดยแยกไม่ออกระหว่างการหาเสียงส่วนตัว หรือทำงานในฐานะรัฐบาล เพราะการนำของหลวงมาใช้ก็มีความผิดเช่น รถหลวง มีข้าราชการบางท่านนำมาใช้แล้วโดนฟ้องถึงกับติดคุก ติดตะราง จึงมีคำถามว่าถ้าเป็นกรณีแบบนี้รัฐบาลเองจะนำของหลวงมาใช้ได้หรือไม่ แล้วทำไมมาตรฐานในการปฏิบัติตามกฎหมายถึงกลับไปกลับมาได้ในทัศนะของนายวิษณุ” นายจุฤทธิ์กล่าว
“จุฤทธิ์” แนะ กกต. กำหนดสาระและภาพในป้ายหาเสียงให้ชัด หวั่นมี “อีแอบ” ซ่อนในบัญชีรายชื่อ
นอกจากนี้นายจุฤทธิ์ยังกล่าวถึงเรื่องระเบียบเกี่ยวกับการหาเสียงในการเลือกตั้งครั้งนี้ที่เกี่ยวกับการจัดทำแผ่นป้าย ที่ กกต. กำหนดบางเรื่องชัดแต่บางประเด็นกลับไม่มีความชัดเจน เช่น เรื่องจำนวนป้ายมีการกำหนดจำนวนชัดเจน แต่สาระหรือภาพในป้ายกลับมีความคลุมเครือ เช่นกำหนดให้มีรูปเฉพาะผู้สมัคร ส.ส. เขตแต่ละเขต หัวหน้าพรรค และว่าที่นายกรัฐมนตรี ตามที่พรรคการเมืองเสนอเท่านั้น ห้ามใช้รูปบุคคลอื่น จึงมีคำถามว่า แล้วทำไมไม่อนุญาตให้ใส่ภาพผู้สมัครบัญชีรายชื่อทั้ง 150 คน ของแต่ละพรรคด้วย เพราะคะแนนที่ประชาชนเลือกจะนำไปสู่การคำนวน ส.ส. บัญชีรายชื่อของแต่ละพรรคด้วย ส่วนพรรคใดจะใช้ภาพใครก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละพรรค ไม่ใช่ย้อนยุค ปิดบังบัญชีรายชื่อ เป็นระบบอีแอบ ประชาชนไม่รู้ว่ามีใครแอบอยู่ในบัญชีรายชื่อแต่ละพรรคบ้าง และตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นการเลือก 1 ใบ 2 ระบบ ประชาชนก็ควรทราบข้อมูลทุกด้านอย่างครบถ้วน เช่นเดียวกับใบลงคะแนนที่ควรมีทั้งชื่อผู้สมัครเขต โลโก้พรรค และชื่อพรรค เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และประชาชนก็จะเข้าใจง่ายในการใช้สิทธิ์ และตรงตามเจตนารมณ์ของผู้ใช้สิทธิ์ด้วย