ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
พรรคเพื่อชาติ ชู นโยบาย 1 ตำบล 1 นศ.แพทย์ และ 1 ฉโนด เท่าเทียมทุกที่
07 ม.ค. 2562

 รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ แง้มนโยบายเด็ด ปชช.ต้องกินดีอยู่ดี เข้าถึงการรักษาได้ง่าย ตามเป้าลดเหลื่อมล้ำ ทั้งนโยบาย 1 ตำบล 1 นศ แพทย์ ยกฐานะ รพ.ตำบลให้ได้มาตรฐานเท่าเทียมกันทุกที่ และ นโยบายโฉนดใบเดียว เท่าเทียมกันทุกพื้นที่ 

 
ดร.รยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ เปิดเผยถึงนโยบายพรรคเพื่อชาติ ที่เน้นลดความเหลื่อมล้ำให้ประชาชน ด้วยความที่พรรคเพื่อชาติ เป็นพรรคของประชาชน เป็นพรรคของคนจน นโยบายของเรา ก็จะเน้นช่วยเหลือ แก้ไขปัญหาให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ นั่นก็คือคนจน เนื่องจากเกือบห้าปีที่ผ่านมา ประเทศไทยมีอันดับความเหลื่อมล้ำสูงอีกทั้งยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนล่าสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลกแล้ว นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ ท่านให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ ความยากจนของประชาชนมาเป็นอันดับหนึ่ง โดยมีเป้าหมายในการเข้ามาทำเพื่อชาติในครั้งนี้ เพราะต้องการให้คนจนหมดไป ทุกคนต้องกินดีอยู่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุข แม้บางคนชีวิตจะไม่มีโอกาส ที่จะสร้างตัวเองให้รวยขึ้นมาได้ แต่นโยบายของพรรคเพื่อชาติ จะเน้นการให้โอกาส สร้างโอกาสให้ทุกคนสามารถมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ รวมทั้งจากการลงพื้นที่ รับฟังปัญหาจากประชาชนทั่วประเทศ ก็ได้นำเอาปัญหาเหล่านั้นมาปรับใช้ และออกเป็นนโยบายที่จะนำมาแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน 
 
ดร.รยุศด์ กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญที่สุดสิ่งหนึ่งของมนุษย์ คือ คุณภาพชีวิต สุขภาพกาย ใจที่ดี นโยบายด้านสาธารณสุขจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่ผ่านมารัฐบาลในอดีตก็ได้มีโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่เป็นที่ชื่นชมกันมาก สามารถช่วยเหลือประชาชนและส่งเสริมคุณภาพชีวิตได้เป็นอย่างดี นโยบายใดเป็นสิ่งที่ดีก็ควรคงไว้ แต่สิ่งที่เป็นปัญหาเราก็ควรแก้ไข ซึ่งปัญหาของโครงการดังกล่าวคือ การเข้าถึงสถานพยาบาล โดยเฉพาะสถานที่ห่างไกล ที่มักจะมีโรงพยาบาลประจำตำบล เล็ก ๆ ที่มักจะมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ไม่เพียงพอ ไม่ครบ หากต้องการรักษาบางโรคต้องส่งต่อเข้าโรงพยาบาลใหญ่ในเมือง ซึ่งก็มักจะมีปัญหาเรื่องของการเดินทางที่ไม่สะดวก ลำบาก ทางพรรคเพื่อชาติ จึงได้เสนอนโยบาย ยกฐานะ โรงพยาบาลประจำตำบลให้เป็นโรงพยาบาลที่มีเครื่องมือแพทย์ ที่ได้มาตรฐาน มีห้องผ่าตัดเล็ก เครื่องเอ็กซเรย์  เครื่องไม้เครื่องมือ สถานะทัดเทียม ได้มาตรฐาน เหมือนโรงพยาบาลในตัวเมือง ซึ่งประมาณการณ์ไว้ว่าจะโช้งบประมาณประมาณที่ละ สามล้านบาท ทั้งประเทศมีเจ็ดพันกว่าแห่ง รวมแล้วใช้เงินสองหมื่นล้านเศษ น้อยกว่าซื้อเรือดำน้ำมาเกยตื้นเล่นด้วยซ้ำไป 
 
นอกจากนี้ เมื่อมีโรงพยาบาลที่ดีแล้ว แต่ในชนบทก็มักจะมีปัญหาอีกอย่างคือ ขาดบุคลากรทางการแพทย์ เราจึงได้คิดนโยบาย หนึ่งตำบล หนึ่งนักศึกษาแพทย์ โดยจะให้ทุนกับนักเรียนที่ขาดโอกาส ขาดทุนทรัพย์ในแต่ละตำบลทั่วประเทศ ได้เรียนแพทย์ โดยไม่จำเป็นว่าต้องเป็นเด็กเรียนเก่ง ขอเพียงมีใจ อยากเรียนและกลับมาทำงานใช้ทุนที่บ้านเกิด ไปเป็นหมอให้กับตำบลและท้องถิ่นของตน ด้วยเราทราบดีว่ามนุษย์ และเด็กแต่ละคนมีพัฒนาการที่ไม่เท่ากัน ช้าเร็วต่างกัน อาจจะด้วยอาหาร การเลี้ยงดูที่ต่างกัน ของแต่ละบ้าน แต่ละพื้นที่ เด็กเรียนไม่เก่ง เด็กเรียนช้าไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ เราต้องให้โอกาสพวกเขา จะไม่มีการตัดสินใครด้วยคำว่าโง่ ว่าแพ้อีก นั่นก็จะเป็นการเลิกระบบแพ้คัดออก โง่คัดออก แนวคิดเหล่านี้ต้องหมดไปจากสังคมไทย เพื่อให้โอกาสและสร้างความเท่าเทียมให้กับคนจนทั่วทั้งประเทศ 
 
นอกจากนี้ รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวอีกว่า เรายังมีนโยบาย โฉนดใบเดียว ยกเลิกเอกสารสิทธิ์ ทุกประเภท อาทิ สปก. นส.2 ให้เหลือเพียงโฉนดเท่านั้น อาจจะมีแบ่งแยกเป็น โฉนดเพื่อการเกษตร เพื่อการปศุสัตว์ เพื่อการประมง เป็นต้น รวมถึงจะใช้มาตรส่วนเดียวกันในโฉนดทุกประเภทด้วย ลดปัญหาความขัดแย้ง และเพิ่มความเท่าเทียมกัน ให้กับเจ้าของโฉนดทุกคน จะไม่มีใครต้องอายใครเวลาถือโฉนดไปกู้เงิน มีค่า มีศักดิ์ศรีเท่ากัน กับโฉนดทุกใบ ไม่เหมือนเอกสารสิทธิ์ จำพวก สปก.นส.2 ที่มีค่าน้อยกว่าโฉนด ซึ่งรายละเอียดของทั้ง 2 นโยบาย และนโยบายอื่นๆของพรรคนั้น จะมีการแถลงอย่างเป็นทางการให้พี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนได้รับทราบต่อไป

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...